ตลาดหุ้นไทย ปิดเช้าวันนี้ ลบ 2.42 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หลังสหรัฐฯเปิดสงครามการค้ากับยุโรป กดดันเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,611.22 จุด ลดลง 2.42 จุด (-0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 19,065.72 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,612.65 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,605.13 จุด
โดยนายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว หลังจากที่ล่าสุดสหรัฐฯจะเริ่มเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) หลายรายการ วงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ ขณะที่ปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ โดยต้องรอความคืบหน้าจากการเจรจาการค้าที่จะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกทำให้มีแรงขายออกมาในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งตลาดหุ้นและตลาดน้ำมัน กดดันให้ราคาน้ำมันปรับลดลง ก็ส่งผลต่อการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีในตลาดหุ้นไทยด้วย อย่างไรก็ตามตลาดยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ (Domestic Plays) อย่างค้าปลีก สื่อสาร ช่วยประคองตลาด แม้จะยังคงมีแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ต่อเนื่องจากความกังวลต่อผลประกอบการไตรมาส 3/62 และแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของแบงก์ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศยังขายต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทย
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีคงจะยังคงถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ทำให้โอกาสปรับตัวขึ้นจะอยู่ในกรอบจำกัด ขณะที่ยังคงมีแรงขายของต่างชาติออกมาต่อเนื่อง แต่ในส่วนของกองทุนในประเทศที่ขายออกมาหลายวันอาจจะหันกลับมาซื้อหากดัชนีปรับลดลงมาอยู่ใกล้บริเวณ 1,600 จุดก็จะทำให้ดัชนียังยืนได้ แต่หากกองทุนในประเทศขายต่อเนื่อง ก็อาจจะทำให้ดัชนีหลุดระดับ 1,600 จุดลงไปได้ โดยมองแนวรับช่วงบ่ายอยู่บริเวณ 1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,615 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,688.54 ล้านบาท ปิดที่ 402.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,360.67 ล้านบาท ปิดที่ 45.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 958.49 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 741.44 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 622.95 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท.