ฟ้องหมอเหรียญทอง – วานนี้ 9 สิงหาคม 2564 ที่สภ.เมืองอุดรธานี นายสรชัช ทองเพ็ญ ตัวแทนกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น หอบเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ใช้ถ้อยคำหยาบคายโพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมานายสรชัช เปิดเผยว่า ในเฟซบุ๊กชื่อ เหรียญทอง แน่นหนา มีการโพสต์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ซึ่งหมายถึงว่าศาลหรือผู้พิพากษา บอกว่าใช้ดุลพินิจที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ใช้คำหยาบคายแล้วก็กล่าวถึงว่าเป็นการข่มขู่ลงไป โดยช่วงหนึ่งของโพสต์ดังกล่าวนั้นมีถ้อยคำที่เป็นเหตุให้นำมาสู่การฟ้องในครั้งนี้ซึ่งระบุว่า
ขอด่าผู้พิพากษาประเภทหัว ‘ค’อย’วั’คซีนอ’ยู่’ หรือ ‘ควายไม่มีสระอา’ นะครับว่า “พวกคุณได้ตระบัดสัตย์และทรยศต่อพระมหากษัตริย์ พวกคุณเป็นแค่ไอ้อีแอบที่อาศัยการปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรติภายใต้พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์กระทำการบ่อนทำลายพระมหากษัตริย์เสียเอง พวกคุณบางตัวแม้จะไม่มีเจตนาแต่มันก็เป็นแค่ไอ้พวกดัดจริตโลกสวยมีดุลพินิจได้แค่กรอบสี่เหลี่ยมตามบทบัญญัติตามตัวหนังสือ ไม่มีมันสมอง ไม่รู้สึกรู้สากับความสงบสุขเรียบร้อยของสังคมและประเทศชาติโดยรวม ไม่คำนึงถึงความมั่นคงของชาติ
ทั้งๆที่ความมั่นคงของชาติ และความสงบสุขเรียบร้อยของสังคมเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่พวกคุณจะต้องนำมาใช้เป็นดุลพินิจในกระบวนการยุติธรรมเพื่อยุติด้วยความเป็นธรรม…สติปัญญาของพวกคุณมีได้แค่นี้หรือ???…หรือว่ามีสติปัญญามากแต่ชั่วช้าเลวระยำสามานย์???พวกคุณปล่อยตัวอริราชศัตรูทั้งๆที่กำหนดเงื่อนไขไว้ชัดเจนอยู่แล้วแต่ก็ปล่อยออกมาสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ถอนประกัน แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี พวกคุณก็ให้ประกันตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ออกมาบ่อนทำลายชาติทำลายพระมหากษัตริย์อย่างน่าละอาย…ผมบอกตรงๆว่าละอายแทนผู้พิพากษาที่ดีๆต้องเสื่อมเสียเพราะไอ้พวกหัว ‘ค’อย’วั’คซีนอ’ยู่’ หรือ ‘ควายไม่มีสระอา’ อย่างพวกคุณ
ซึ่งทางตัวแทนกลุ่มธรรมาภิบาล นายสรชัช ให้ความเห็นว่าเห็นว่าการที่ผู้พิพากษาให้การประกันตัวผู้ที่ถูกกล่าวหาที่เป็นแกนนำผู้ชุมนุมนั้น”เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล ผู้พิพากษาถือว่าเป็นหลักของบ้านเมือง การใช้ถ้อยคำและท่าทีท่วงทำนองของท่านที่ใช้ชื่อว่า เหรียญทอง แน่นหนา จึงมีลักษณะเข้ากฎหมายอาญา ทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ซึ่งเฟซบุ๊กมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ไม่เป็นผลดีต่อสังคมส่วนรวม บ้านเมืองในสถานการณ์อย่างนี้ มันจะเกิดความระส่ำระสาย เรามองว่าการทำหน้าที่พิจารณาคดีของผู้พิพากษานั้น มีความเป็นอิสระ เพื่อให้ปราศจากการข่มขู่คุกคาม และการหมิ่นที่จะทำให้กระบวนการยุติธรรมนั้นขาดความน่าเชื่อถือ เราจำเป็นที่จะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษ”
ขอบคุณข้อมูล เหรียญทอง แน่นหนา / ข่าวP-Newsออนไลน์