อัปเดตอาการ “บุ้ง ทะลุวัง” วันที่ 46 เวียนหัวนอนไม่ได้ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ส่งกำลังใจให้ “ตะวัน-แฟรงค์” ถ้าโลกยุติธรรมขึ้นเราคงได้ออกไปเจอกัน
วันที่ 12 มีนาคม 2567 ประเด็นการ ประท้วงอดอาหาร ของกลุ่มทะลุวัง ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง อย่างที่หลายๆคนทราบดีถึงอาการก่อนหน้านี้ที่ทางเราได้นำเสนอไป “บุ้ง-ตะวัน-แฟรงค์” ทั้ง 3 คนมีอาการแย่จนต้องหามส่งโรงพยาบาลล่าสุด ทางเพจ ทะลุวัง – ThaluWang ได้มีการอัปเดตอาการของ บุ้ง เนติพร หรือ บุ้ง ทะลุวัง ของวันที่ 11 มีนาคม 2567 ว่า “โรงพยาบาลแจ้งว่า ถ้าไม่กินยาต้องไปอยู่ห้องผู้ป่วยวิกฤตซึ่งจะเป็นห้องผู้ป่วยรวม”
จากผลตรวจเลือดโพแทสเซียมบุ้งเหลือ 2.1 อ้วกเป็นสีเขียวรสขม มีอาการเวียนหัวนอนไม่ได้ หมอให้บุ้งกินโพแทสเซียม รอบละ 6 เม็ด 2 รอบเป็นทั้งหมด 12 เม็ด และ ยาแก้อาเจียน “บุ้งกินน้ำเฉพาะตอนกินยา”
แพทย์โรงบาลธรรมศาสตร์แจ้งว่า จากการที่บุ้งทานยาแก้อาเจียนตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้ ทำให้เกลือแร่ต่ำ และหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีการตรวจค่าEKG (คลื่นหัวใจ) และตรวจเลือดทุกวัน

“บุ้ง” บอกว่า ตอนนี้ถึงแม้จะรับน้ำตอนกินยาก็ยังกินอย่างจำกัด มีความต้องการให้มีความเปลี่ยนแปลงในสังคม ไม่อยากเห็นความเหลื่อมล้ำแล้ว อยากให้ข้อเรียกร้องของพวกเราสำเร็จในรุ่นนี้ ไม่อยากเห็นเด็กๆต้องออกมาเจออะไรแบบนี้อีก
รู้ว่าบนหนทางนี้ไม่ง่ายและทางที่พวกเราเลือกก็ไม่ง่าย กำลังใจที่เหลืออยู่ขอส่งให้แฟรงค์ ให้ตะวัน ให้เพื่อนทุกๆคน ถ้าวันนึงโลกยุติธรรมขึ้นเราคงได้ออกไปเจอกัน
ส่วนอาการ “ตะวัน และ แฟรงค์”
หลังจากที่หมอประชุมกัน ตะวัน ตกลงที่จะรับยาโพแทสเซียม เพราะค่าเลือดต่างๆต่ำลง หมอจึงขอให้รับยาเพื่อปรับเกลือแร่ และให้รับน้ำหวานมื้อละ 200 ml. ตะวันยอมรับยา แต่กับน้ำหวานไม่ได้จิบจนหมด หมอบอกว่าเจาะเลือดยากมาก เพราะเลือดหนืด เเขนทั้งสองข้างจึงช้ำและปวดมาก
หลังจากยอมรับน้ำหวานไป กลายเป็นว่าค่าเกลือแร่แปรปวน จึงต้องรับยาเพื่อปรับเกลือแร่โพแทสเซียม , ฟอสฟอรัส , แมกนีเซียม และถ่ายเหลว สุดท้ายหมอให้ตะวันรับ วิตามินบี1 ทางเส้นเลือด หมอบอกว่าเพื่อป้องกัน อาการ Refeeding syndrome (RFS) คือ ภาวะผิดปกติของสมดุลอิเล็กโทรไลต์และสารน้ำในผู้ป่วยที่มีภาวะทุพโภชนาการหรือผู้ที่อดอาหารเป็นระยะเวลานาน แล้วกลับมาได้รับสารอาหารทดแทนในปริมาณเพิ่มขึ้น

ระหว่างเยี่ยมพยาบาลด้วยเข้ามาเจาะน้ำตาลปลายนิ้ว ค่าน้ำตาล 141 ตอนนี้ค่าน้ำตาลสวิง วันนี้ตะวันพอยิ้มได้ เนื่องจากได้กำลังใจอย่างมากล้นจากมวลชนข้างนอกที่ยังสู้อยู่ ขอบคุณป้ามล ที่ยังเป็นแสงสว่างให้กับเด็กๆ ขอบคุณอาจารย์และมวลชนทุกคนที่อยู่เป็นกำลังใจให้กัน ก่อนลาตะวันก็ฝากข้อความออกมาถึงคนข้างนอก
“ต้องสู้เพื่อไม่ให้เกิดแบบนี้กับคนอื่นอีก”
และในส่วน อาการของแฟรงค์ นั้น แฟรงค์ต้องเข้ารับการรักษาตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากร่างกายมาถึงจุดที่ไม่ไหวเกินขีดจำกัด โรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังคงยื้อไม่ยอมส่งตัวแฟรงค์มาที่ธรรมศาสตร์ และเมื่อวันศุกร์ผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์มาเยี่ยม
“แฟรงค์” บอกว่ามีช่วงเสาร์อาทิตย์อยากถอดใจรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง แต่ตอนนี้อยากกลับมาฮึดสู้ จำได้ว่าเห็นคนเข้ามาเต็มห้องพิจารณาเลย