“ครูมานิตย์” ตอบไม่อาย! เป็น “องครักษ์รัฐบาล” ลั่น! อยู่ตรงนี้ได้เพราะ “ทักษิณ” เหน็บ “ศิริกัญญา” ปฏิบัติกับทฤษฎีต่างกัน
องครักษ์รัฐบาล : วันที่ 4 มกราคม 2567 ที่อาคารรัฐสภา ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เป็นวันที่ 2 หลังจากที่วานนี้ (3 มกราคม 2567) การเป็นประชุมสภาเป็นไปด้วยความดุเดือด ตลอดการประชุม หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้มีการอภิปรายรายละเอียดการแบ่ง งบประมาณในปี 2567ด้าน ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.พรรคเพื่อไทย และในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวถึงการอภิปรายของฝ่ายค้านเมื่อวาน โดยมองว่าผิดคาด
เพราะ ตอนแรกนึกว่าน้องๆ ก้าวไกลจะอภิปรายออกไปนอกจอ แต่เมื่อวานเป็นการอภิปรายเชิงวิชาการ โดยเฉพาะ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ก็ดีคงเหลือเพียงวาทกรรมเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้แปลกอะไร
บรรยากาศเงียบเหงากว่าปีก่อน
ครูมานิตย์ กล่าวว่า ย่อมถูกมองว่าเงียบเหงากว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้เป็นเหมือนสงครามกลางสภาระหว่าง 3 ป. ฝ่ายค้านที่มีพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จึงเหมือนคู่ตรงข้ามอย่างชัดเจน จึงอาจจะบู๊กันตั้งแต่เรื่องงบประมาณไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นอกจากนี้ ครูมานิตย์ ยังเปิดเผยว่า มีการพูดคุยระหว่างนายกรัฐมนตรี และ สส. ของพรรคเพื่อไทยโดยตลอด เพราะตนก็ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแล สส. รุ่นน้องในพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงประสานงานกับวิปฝ่ายค้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็ประจำอยู่ที่รัฐสภาตลอด แต่ไม่ได้มีความกังวล บ้างก็เปิดโอกาสให้ สส. จากพรรคร่วมรัฐบาลไปพบเป็นการส่วนตัวที่ห้อง เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่
การอภิปรายที่พาดพิง “ทักษิณ”
สำหรับการอภิปรายที่พาดพิงถึง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ครูมานิตย์ ระบุว่า สภาวันนี้คงแยกแยะกันออก ยกเว้น จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ตนจึงลุกขึ้นมาประท้วง เนื่องจากเห็นว่า จุรินทร์ เป็นนักการเมืองอาวุโส
“ถ้าเป็นน้องๆเด็กๆมาอภิปราย ผมก็ไม่ค่อยซีเรียส คนเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรี เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการมาไม่รู้กี่กระทรวง มาอภิปรายเรื่องรองเท้า แล้วก็พยายามพายเรือออกนอกกรอบ นี่เป็นสไตล์เดิมๆ ซึ่งก็ไม่แปลก แต่อยากจะเตือนว่าหากจะอธิบายเรื่องนี้ก็มีเวทีอยู่ เรื่องงบประมาณไม่ได้เกี่ยวข้องกับการล้มป่วยของนายทักษิณฯ ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเลย” ครูมานิตย์ กล่าว
ต้องยอมรับว่า เมื่อวานอาจจะประท้วง นายจุรินทร์ เร็วเกินไปนิดหนึ่ง คิดว่าต้องประท้วงไว้ก่อน และเชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ต้องมาชี้แจงและประเด็นดังกล่าว
องครักษ์ พิทักษ์รัฐบาล
ครูมานิตย์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่มุมมอง เพราะตนเองก็เป็นผู้แทนราษฎรมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีหัวหน้าพรรคเป็น ทักษิณ ตามด้วย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่รู้จักและมีความเคารพนับถือกัน
“ผมตอบแบบไม่อายเลยว่า บางครั้งมันมีความจำเป็น เพราะว่าเขาก็เป็นคนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มีโอกาสยืนอยู่ ในสภาวันนี้ตั้งแต่ปี 2544 เมื่อครั้งท่านยังเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทยอยู่” ครูมานิตย์ กล่าว
ส่วนพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไรให้กรณีของ ทักษิณ ไม่ถูกนำมาเชื่อมโยง ครูมานิตย์ กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ จะให้ตนเองมาตอบแทนตรงนี้ไม่ได้ ส่วนการอภิปรายของ ศิริกัญญา ว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีฝีมือในการบริหารประเทศนั้น เป็นวาทกรรม เป็นมุมมอง แม้ตนเองจะยอมรับในการอภิปรายของ ศิริกัญญา แต่การใช้งบกลางก็เหมือนการตีเช็กเปล่าอยู่แล้ว ในทุกๆ รัฐบาล มองว่ามีทั้งวาทกรรมผสมไปกับวิชาการ หากสักวันถ้าพรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้ง และพรรคก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ แล้วเขาจะรู้ว่าการเป็นฝ่ายปฏิบัติกับฝ่ายทฤษฎีนั้นต่างกัน