อธิบดีกรมคุมประพฤติ ยืนยันแล้ว! ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ไม่ต้องติด กำไลEM หลังได้พักโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วย และมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
สืบเนื่องจากกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ออกมายืนยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็น 1 ใน 930 รายชื่อ จากทั้งหมด 945 คน ที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะอนุกรรมการ การพักโทษ และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เสนอไปยังชั้นกระทรวงยุติธรรมรับทราบ เนื่องจากคุณสมบัติของ นายทักษิณ ครบถ้วน ทั้งยังรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง พิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
สำหรับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และในฐานะลูกสาวนานทักษิณ กล่าวว่า หลังจากที่ทราบว่าเข้าเกณฑ์ได้รับโทษ ทางครอบครัวก็แค่เตรียมความพร้อมที่บ้านเพราะอยากให้ออกมาตลอดอยู่แล้ว นี่ก็เตรียมตั้งแต่คุณพ่อกลับมาถึงเมืองไทยแล้วค่ะ ไม่ใช่เพิ่งเตรียม โดยเป็นการเตรียมที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า”
ทางด้าน นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงขั้นตอนการรับตัว นายทักษิณ จากกรมราชทัณฑ์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพักโทษ ภายใต้การกำกับดูแลของกรมคุมประพฤติว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบในรายละเอียดได้ว่าจะต้องดำเนินการในรูปแบบใด เพราะต้องรอคำสั่งของทางคณะอนุกรรมการพักโทษ ซึ่งจะส่งรายชื่อและเงื่อนไขการคุมประพฤติของแต่ละกลุุ่ม แต่ะคนไม่เหมือนกัน โดยจะมีเงื่อนไขแนบท้ายคำสั่งระบุมา
เข้าเกณฑ์พักโทษกรณีพิเศษ ต้องใส่กำไลอีเอ็ม (EM)?
เมื่อถามว่าผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์พักโทษกรณีพิเศษ ป่วย อายุ 70 ปี ต้องใส่กำไลอีเอ็มหรือไม่ นายเรืองศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตามหลักเกณฑ์ไม่จำเป็นต้องใส่กำไลอีเอ็ม เมื่อมีการแจ้งพักโทษอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะดูในรายละเอียด หลังจากนั้น 3 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการพักโทษจะต้องรายตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ หากรายใดป่วยไม่สามารถมาพบได้ เจ้าพนักงานคุมประพฤติก็จะไปพบยังถิ่นพำนักที่ผู้อุปการะแจ้งไว้ในแบบคำร้อง จากนั้นก็จะเแจงถึงกระบวนการพักโทษ เงื่อนไขการคุมความประพฤติ
กรณี นายทักษิณ ถือว่าเป็นผู้ได้รับการพักโทษเหตุพิเศษ เนื่องจากสูงอายุ มีอายุ 74 ปี และเจ็บป่วย ดังนั้น ตามหลักเกณฑ์ที่ผ่านมา มักจะไม่ให้ได้รับการ ติดกำไล EM เพราะต้องคำนึงถึงปัญหาเรื่องสุขภาพและอัตราความเสี่ยงน้อยที่จะไปก่อเหตุกระทำผิดซ้ำได้
ส่วนเรื่องเงื่อนไขพิเศษสำหรับกรณีที่ นายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังจากคดีทุจริตคอรัปชัน เจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะมีการสืบเสาะข้อมูลมาอย่างครบถ้วนแล้ว และประเมินว่าหากได้รับการพักโทษ มีผู้อุปการะคือใคร บุคคลที่อุปการะหรือในภาษาปากอาจเรียกว่า “ผู้ค้ำประกัน” มีอาชีพหรือมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอย่างไรบ้าง และ นายทักษิณ เมื่อได้รับการพักโทษจะมีอาชีพอะไร ไปพักโทษยังสถานที่ใด มีเงินสำหรับดำรงชีพหรือไม่ รวมถึงให้ความช่วยเหลือตัวเองได้หรือไม่
หากข้อเท็จจริงที่ได้จากการสืบเสาะข้อมูล พบว่าไม่มีความสะดวกเพียงพอในด้านใดก็ตาม เจ้าหน้าที่คุมประพฤติประเมินได้ว่าอาจไปก่อเหตุซ้ำได้ หรือทุจริตคอรัปชันได้ นี่เป็นหลักพื้นฐานสำหรับการสืบเสาะข้อเท็จจริง เมื่อ นายทักษิณ ได้รับการพักโทษครบ 6 เดือนเรียบร้อยแล้ว จะพ้นโทษในช่วงเดือน ส.ค. 2567
