“วราวุธ” พูดเหน็บ! “ก้าวไกล” เล่นเอา “หมออ๋อง” ออกจากพรรค ลั่น! เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทาง การเมือง ไม่รู้ใครเป็นคนคิด แต่ก็เข้าใจคิดดีมาก
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนในการเมืองสำหรับการลาออกจาก พรรคก้าวไกล ของ หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงไปอย่างกว้างขวาง โดยเหตุผลของการเลือกลาออกในครั้งนี้นั้นเกี่ยวเนื่องกับตำแหน่ง รองประธานสภาฯ ที่ หมออ๋อง ต้องการจะปฏิบัติหน้าที่นี้ต่อไป ขณะเดียวกันทางพรรคก้าวไกล ก็มีความประสงค์ที่จะขึ้นเป็น ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ โดยหมออ๋องต้องหาพรรคต้นสังกัดใหม่ในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นอกจากนี้ หมออ๋อง ยังเปิดเผยอีกว่า คุณสมบัติของพรรคที่ตนจะย้ายไปนั้น ต้องมีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกับตน ต้องเป็นพรรคที่พร้อมทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง โดยมี 3 เหตุผลประกอบการตัดสินใจดังนี้
1. ผมต้องการใช้วาระที่เหลือของสภา ในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อยกระดับการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร ให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพสูง และเป็นของประชาชน
2. ผมต้องปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาอย่างเป็นกลางต่อทุกพรรคการเมืองในสภา และต่อประชาชนทุกชุดความคิด ไม่ว่าผมจะสังกัดพรรคใด ดังนั้น การที่ผมต้องเปลี่ยนพรรคต้นสังกัด จะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่และแผนงานของผมในฐานะรองประธานสภา
3. ผมมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะสามารถดูแลความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนชาวพิษณุโลกได้อย่างครบถ้วน ที่ผ่านมา การทำหน้าที่รองประธานสภาของผม ทำให้ผมจำเป็นต้องพัฒนาทีมงานพรรคก้าวไกลในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะพื้นที่เขต 1 เพื่อเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการประสานการแก้ไขปัญหาในพื้นที่
วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกลขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนจากพรรคก้าวไกล ออกจากพรรค เกิดเสียงวิจารณ์เป็นแท็กติกทางการเมือง ว่า การที่นายปดิพัทธ์โดนขับออกจากพรรคก้าวไกล ก็ยังต้องหาพรรคการเมืองสังกัดอยู่ได้ ภายใน 30 วัน โดยที่ไม่เสียสิทธิ์การเป็น สส. ซึ่งการทำเช่นนี้ก็เข้าใจได้ ถ้าต้องการรักษาตำแหน่งรองประธานสภาบวกกับสถานะของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไว้
“ผมอยู่กับการเมืองมาตั้งแต่เล็ก ก็ต้องชมว่าการทำแท็กติกนี้ เป็นแท็กติกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางการเมือง ไม่รู้ใครเป็นคนคิด แต่ก็เข้าใจคิดดีมาก ในการที่จะรักษาสถานะผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภา ผมไม่ขอออกความเห็นว่าดีหรือไม่ เป็นอย่างไร แต่ในทางกฎหมายแล้วไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมืองที่จะดำเนินการ ส่วนเรื่องของความเหมาะสม การเมืองถ้าไม่ผิดกฎหมายก็อยู่ในวิสัยของสมาชิกแต่ละท่านที่จะดำเนินการ” นายวราวุธกล่าว

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY