“เศรษฐา” เปิดใจ! หลังประชุมมอบนโยบายให้นายตำรวจ ลำบากใจสั่งเด้ง “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” มาช่วยงานสำนักนายกฯ แต่ต้องทำ เพราะอยากให้เรื่องจบ
หลังจาก วันที่ 20 มี.ค. 2567 13.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามใน ออกคำสั่ง ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 60 วัน อีกทั้งยังมอบหมายให้พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รองผบ. ตร.รักษาการแทนในตำแหน่ง ผบ.ตร. หลังจากเกิดความขัดแย้งภายในองค์กรตำรวจ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปนั้น
วันนี้ (21 มี.ค. 2567) เวลา 07:45 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ (ก.ตร.) เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เพื่อเป็นประธานในการมอบนโยบายบริหารราชการให้กับตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาจากทั่วประเทศ โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้การต้อนรับ
โดยในวันนี้นายเศรษฐา เดินทางมาเพื่อมอบนโยบายให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาจากทั่วประเทศ ที่ชั้น 2 และในช่วงท้ายของมอบนโยบาย นายเศรษฐา ได้ฝากถึงนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา ระบุว่า “ขอให้พวกเรากันเองมีความสมัครสมานสามัคคี เชื่อว่าทุกคนก็เป็นคนมีความรักให้ชอบใครต่างๆ กันไป ซึ่งเชื่อว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เข้าใจถึงปัญหาที่มีมา รวมถึงการสมัครสมานสามัคคี และการเลือกข้าง แบ่งพวก หรือลูกน้องใครต่างๆ นั้น ตนเชื่อว่า เราเก็บความรักนั้นเอาไว้ในใจเองดีกว่า วันนี้ขอให้เอาพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง และทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด”
ส่วนเรื่องคดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเมื่อวานนี้ ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเราก็มีคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้แล้วถึง 3 ท่าน และเมื่อมีผลสรุปแล้วก็จะนำเรียนแจ้งขอที่ประชุม ก.ตร. ให้ทราบอีกครั้ง และขอให้ทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เพราะตนเองก็ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราอยู่ตรงนี้เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน และขอให้ยึดตรงนี้ไว้ ถ้าเราทำได้ก็เชื่อว่า เราจะทำงานด้วยกันได้ และองค์กรก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ซึ่งภายหลังจากประชุม นายเศรษฐา ทวีสิน ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงการโยกย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ว่า มีความยากและลำบากใจอย่างยิ่งแต่ก็ต้องทำ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและขอให้จบเรื่องนี้ได้แล้ว
เชื่อว่าทุกคนเข้าใจ ส่วนทั้งสองท่านจะได้กลับเข้ามารับตำแหน่งเดิมได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผลสอบของคณะกรรมการที่ได้มีการแต่งตั้งขึ้นมา
นอกจากนี้ ได้ย้ำไปแล้วว่าหากไม่ได้มีความผิดอะไรก็สามารถกลับเข้าทำหน้าที่ได้เหมือนเดิม
