วิโรจน์ กมธ.ทหาร ข้องใจ! จ่อเชิญ ‘ทร.’ แจงปม จัดซื้อ เรือรบฟริเกต แทน เรือดำน้ำ หลังจ่ายไปกว่า 7 พันล้าน
ความคืบหน้าเรือดำน้ำ ที่ล่าสุดมีประเด็นกลับมาอีกครั้งว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงไปซื้อเรือรบแทน โดยที่จ่ายเงินบางส่วนไปแล้วกว่า 7 พันล้านบาท
ล่าสุด นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังกระทรวงกลาโหม และกองทัพเรือ ยกเลิกจัดซื้อเรือดำน้ำ แบบ S26T มาเป็นเรือรบฟริเกตแทน
เมื่อประเด็นดังกล่าว เข้าถึงหูอย่างนายวิโรจน์ ก็ได้มีการนัดมาพูดคุยทันที ในวันที่ 26 ต.ค. นี้ กมธ.การทหาร จะมีการเชิญกองทัพเรือเข้ามา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่ามีการผิดสัญญาจริงหรือไม่ อย่างไร และมีความเป็นไปได้ในการคลี่คลายปัญหานี้อย่างไร เข้าใจว่าการทวงเงินคืนอาจจะยาก เนื่องจากต้องดูสัญญาก่อน แต่ 7,000 ล้านบาทที่จ่ายไปแล้ว

“เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องของรัฐต่อรัฐด้วย เราต้องระมัดระวัง แม้ขณะนี้จะมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แต่เราต้องยึดตามข้อเท็จจริงเป็นหลัก” นายวิโรจน์ กล่าว
ส่วนกรณีที่อาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มนั้น นายวิโรจน์ ก็กล่าวว่า ต้องดูมีรายละเอียดอย่างไร หากจะต้องมีการจ่ายเงินจริง ต้องตั้งคำถามว่า เมื่อประเทศไทยมีศักยภาพในการต่อเรือรบฟริเกตเองได้ ทำไมไม่เลือกทางเลือกอื่น แล้วนำเงินที่เหลือไปแลกเปลี่ยน เช่น ซื้ออุปกรณ์เพื่อนำมาประกอบในประเทศไทย หรือสามารถเปลี่ยนเป็นสินค้าอื่นได้หรือไม่ อาทิ เรือ OPV หรืออุปกรณ์ที่เราผลิตเองไม่ได้แต่มีความจำเป็น
ขณะที่ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นในกรณีที่ รัฐบาลเปลี่ยนมาเป็นเรือฟริเกตแทน ว่า เดิมทีเรือดำน้ำมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์อยู่แล้ว ทำให้ต้องชะลอซื้อบวกกับช่วงสถานการณ์โควิด แม้จะมีการเซ็นสัญญากันแล้ว เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหาร ถามว่าหากยกเลิกสัญญาจะมีผลต่อเบี้ยปรับต่างๆ หรือมีผลกระทบหรือไม่ น.ส.ลิณธิภรณ์ ก็ได้กล่าวว่า ก็มีผลกระทบในเรื่องงบประมาณที่ต้องสูญเสียอยู่แล้ว
แต่หากมองในหลักการ การเสียเงินไปเฉยๆ กับการที่ยังสามารถได้ของมาใช้งานได้จริง คิดว่า นายสุทินจะพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมและรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เราสูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์
หากมองว่า จะกังวลว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นนี้มาโจมตีรัฐบาลหรือไม่ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมีบทบาทและหน้าที่ในการตรวจสอบ สามารถตั้งคำถามได้อยู่แล้ว ส่วนฝ่ายรัฐบาลจะต้องมีเหตุผลในการชี้แจง และรัฐบาลไทยคงจะพยายามเจรจากับรัฐบาลจีนว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะซื้อเป็นอย่างอื่น แต่ยังไม่ได้ซื้อในวันนี้ พรุ่งนี้
เมื่อถามว่า คำชี้แจง สามารถนำทมาถ่ายสดได้หรือไม่ น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า ตนมองว่าจะถ่ายทอดสดหรือไม่ เนื้อหาสาระที่เกิดขึ้นจากคำชี้แจงหรือการตั้งข้อสังเกตนั้น อาจจะมีเอกสารบางส่วนที่เป็นเอกสารลับ ซึ่งใช้ในระบบราชการที่ไม่สามารถเผยแพร่ได้ ก็มีโฆษก กมธ. มีประธาน กมธ. มี กมธ.ที่ประกอบจากหลายพรรคการเมืองทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่จะสามารถออกมาให้หรือชี้แนะข่าวสารกับประชาชนได้อยู่แล้ว

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY