วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 17 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 สืบเนื่องจากกรณี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่าน Facebook เกี่ยวกับกรณี ที่มีการบีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ จนนำไปสู่เหตุการณืชุลมุนที่กิดขึ้นที่สยาม ว่า “ผม และ พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ทนกับเรื่องนี้แน่นอนครับ!” และมีการเสนอญัตติด่วนเข้าสภาผู้แทนราษฎรเพื่อหารือเรื่องนี้ และหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีก
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้กล่าวว่า ผมเสนอแนะทางออกที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือการทบทวนพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย 2560 มาตราที่ 5 โดยเพิ่มเติมความปลอดภัย ให้คำนึงถึงประชาชนไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบที่มากเกินควร และเตรียมแผนอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในกรณีที่จำเป็น จึงจะทำให้การถวายความปลอดภัยสอดคล้องกับยุคสมัย
และอีกเรื่องหนึ่งคือ การใช้ความรุนแรงในการทำร้ายผู้อื่นเพียงเพราะปกป้องสถานบันฯ เพราะจงรักภักดี หากปล่อยให้กลุ่มคนที่นิยมความรุนแรงนี้ลอยนวล มีอำนาจบาทใหม่ อ้างสถาบันฯไปทำร้ายคนที่คิดต่าง โดยที่ทำอะไรเขาไม่ได้
“ผมมีความเห็นว่า รัฐบาลจะต้องใช้กฎหมายจัดการกับคนเหล่านี้อย่างจริงจัง ไม่ใช้อำนาจมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายผู้คนตามใจชอบ”
นายวิโรจน์ ได้กล่าวว่า เลิกได้แล้ว กับการกล่าวหากันเลื่อนลอยว่ามีคนนู้นคนนี้อยู่เบื้องหลัง ทำกล่าวหาในลักษณะนี้ เป็นการดูถูกประชาชนอย่างสิ้นเชิง ท่านประธาน ทำไมเราไม่ตั้งคำถามกับกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงบ้างครับ ทำคนกี่คนแล้ว ก็ไม่เคยถูกกฎหมายเอาผิดได้ อย่างนี้ต่างหากที่ควรสงสัย ว่ามีผู้มีอำนาจที่คอยให้ท้ายช่วยให้คนเหล่านี้ กระทำความรุนแรงโดยที่ไม่ต้องเกรงกลัวกฎหมาย ผมควรตั้งคำถามแบบนี้บ้างหรือไม่
กล่าวในตอนท้าย ท่านประธานที่เคารพ ผมเชื่อว่าหลายคนประชาชนที่ฟังอยู่ทางบ้าน บางท่านอาจจะไม่สบายใจ และอาจจะนึกด่าทอต่อว่าผมอยู่ในใจ ผมน้อมรับครับ แต่ถ้าฟังด้วยใจที่เป็นกลางและฟังแล้วคิดตามในสิ่งที่ผมพยายามจะสื่อสาร ก็จะทราบดีว่า ผมมีความปรารถนาดีต่อระบอบประชาธิปไตย และสถาบันพระมหากษัตริย์ และประสงค์ที่จะให้สถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงสภิตสถาพรอยู่ภายใต้รัฐธรรนูญของประชาชนตราบนิรันดร์