กรมชลฯเผยส่งหนังสือเร่งรัดบริษัทผู้รับเหมาเร่งรัดก่อสร้าง “อ่างเก็บน้ำน้ำปี้” มูลค่า 1.65 พันล้านบาท หลังล่าช้ากว่าแผนเกือบ 60%
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กลุ่มชาวบ้าน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา นำผู้สื่อข่าวเข้าดูสภาพพื้นที่การก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปี้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.พะเยา หลังจากชาวบ้านได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าทำการแก้ไขปัญหา หลังจากงานก่อสร้างหยุดชะงัก
นายเสริมชัย เซียวศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรณีที่ชาวบ้านมีข้อสงสัยว่า ผู้รับจ้างละทิ้งงานไม่สามารถดำเนินงานได้ต่อเนื่อง เกรงว่าจะทำให้ชาวบ้านเสียประโยชน์จากโครงการที่คาดว่าจะได้รับการใช้น้ำในปี 2564 นั้น
กรมชลประทานขอชี้แจงว่า กรมชลประทานได้ว่าจ้างบริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบ พร้อมส่วนประกอบอื่น และว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ดำเนินการควบคุมงานก่อสร้างทั้งหมด (FULL SUPERVISION ) โดยเริ่มนับอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2560 และสิ้นสุดอายุสัญญาวันที่ 15 พ.ค.2563 อายุสัญญา 1,080 วัน วงเงินค่าก่อสร้าง 1,650 ล้านบาท
ปัจจุบันได้ผลงานความก้าวหน้าสะสม 20.297% จากแผนงานที่วางไว้ 79.737% หรือล่าช้ากว่าแผนงาน 59.440% ซึ่งกรมชลประทานได้ออกหนังสือเร่งรัดให้ผู้รับจ้างปฏิบัติงานตามเงื่อนไขของสัญญาอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จภายในกำหนดอายุสัญญา
“กรณีที่มีการกล่าวว่าชาวบ้านที่เข้ามาใช้แรงงาน ไม่ได้รับค่าจ้างแรงงานเป็นจำนวนมาก กรมชลประทานขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการเบิกจ่ายค่างานก่อสร้างให้ผู้รับจ้าง ตามปริมาณงานที่ทำได้จริงแล้วทั้งหมด ไม่มีค่างานค้างจ่าย แต่อย่างใด”นายเสริมชัยกล่าว
นอกจากนี้ กรมชลประทาน กำลังพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยความรอบคอบ ตามระเบียบ เงื่อนไข และกฎเกณฑ์ในสัญญาให้ถึงที่สุด เพื่อให้งานบรรลุตามวัตถุประสงค์ แล้วเสร็จตามกำหนดเวลาเพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์จากโครงการฯ ให้เร็วที่สุด
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปี้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.พะเยา เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2520 เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูก
ต่อมากรมชลประทานจึงได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสำรวจและออกแบบตามขั้นตอนมาเป็นลำดับ และเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2558 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเปิดโครงการ ให้กรมชลประทานดำเนินการก่อสร้าง โดยมีแผนงานดำเนินการก่อสร้าง 6 ปี (พ.ศ.2559 – 2564) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือให้พื้นที่การเกษตรในเขตอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา กว่า 28,000 ไร่ รวมทั้งเพื่อการอุปโภค-บริโภค การประมง การท่องเที่ยว และยังสามารถบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ท้ายน้ำเขตอำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา