จากกรณีปรากฎภาพพระภาวนารัตนญาณ (ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เข้ารับการประกอบพิธียกยอราชครูแห่งเมืองยอง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา โดยมีการสวมมงกุฎที่ทำจากทองคำแท้หนัก 32 บาท แผ่นทองคำบริเวณบ่าซ้ายหรือสังฆาฏิหนัก 10 บาท และสุพรรณบัตร 5 บาท โดยปรากฎในโซเชียล จนทำให้ทางพระรัตนมุนี (ปุณณมี วิสารโท) รักษาการเจ้าคณะ จ.เชียงราย ได้มีคำสั่งให้เจ้าคณะอำเภอแม่สรวย ตั้งคณะทำงานดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีหนังสือชี้แจงโดยให้รายงานผลต่อเจ้าคณะจังหวัดภายในวันจันทร์ที่ 25 ก.พ.นี้
บรรยากาศที่วัดแสงแก้วโพธิญานพบว่า บรรดาญาติโยม ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปยังคงแวะเวียนไปกราบสักการะ และนมัสการครูบาอริยชาติอย่างเนืองแน่นเช่นเดิม ขณะที่มงกุฏและวัตถุอื่นๆ ที่ได้เกี่ยวข้องได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่กุฏิ โดยทางครูบาอริยชาติ ได้ออกมารับญาติโยมที่มีความเป็นห่วงและมีทั้งผู้เดินทางไปไต่ถามเรื่องราว รวมถึงพระผู้ใหญ่จากเมืองยอง ทั้งนี้ครูบาอริยชาติ พึ่งออกจากการปฏิบัติธรรมเข้าอธิฐานจิตเข้ากรรมฐานในป่า 3วัน ทำให้เพิ่งทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ครูบาอริยชาติ ได้ชี้แจงว่า พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาเนื่องในวันมาฆบูชา และทางวัดพระธาตุเมืองยอง ได้จัดขึ้นโดยมีเมืองใหญ่จาก 8 เมืองเข้าร่วม เช่น เมืองไฮ เมืองท่าขี้เหล็ก หรือแม้แต่เชียงรุ่ง เขตสิบสองปันนา ประเทศจีน มีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมหลายหมื่นคน พิธีมีพระสังฆราชาและพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่รวมทั้งผู้บริหาร และพุทธศาสนิกชนที่เมืองยอง ร่วมกันจัดขึ้น และได้เชิญครูบาไปรับมอบสมณะศักดิ์ชั้นราชครู โดยมีการจัดพิธีเป็นพิเศษ ณ วัดพระธาตุเมืองยอง และมีการจัดหอเดื่อ การสรงน้ำ ฯลฯ
จากนั้นมีการมอบมงกุฏ สังฆาฏิและสุรรรณบัตรชั้นราชครูให้ซึ่งตามประเพณีดังกล่าวก็จะมีการให้สวมมงกุฏด้วยโดยทองคำทั้งหมดที่ได้จากการร่วมกันบริจาคของพุทธศาสนิกชนที่มีศรัทธาแรงกล้าแม้แต่พระสังฆราชา ก็ร่วมบริจาคด้วยทองคำหนัก 15 บาท และหลังจากนั้นก็ไม่ได้มอบให้เพื่อนำไปสวมใส่หรืออย่างไร แต่ให้นำไปต่อบุญและถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมานับพันปีแล้ว และในอดีตฝั่งภาคเหนือของไทยก็เคยมีแต่ก็ได้เลือนหายไปตามกาลเวลาเท่านั้น ดังนั้นเรื่องนี้จึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีและถือเป็นเกียรติของพระภิกษุฝั่งไทยเสียอีกที่ได้รับสมณะศักดิ์ดังกล่าวจากต่างประเท ศและหากว่าไม่ศรัทธาเขาก็คงจะไม่มอบให้แน่นอน
ครูบาอริยชาติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ตามปกติสมณะศักดิ์ชั้นราชครูดังกล่าวจะมอบให้พระภิกษุที่มีพรรษาตั้งแต่ 40 พรรษาขึ้นไปหรือมีอายุอย่างน้อย 60 ปี แต่ครั้งนี้ทางคณะสงฆ์เมืองยอง กลับให้เกียรติสูงสุดมอบให้กับตนทั้งๆ ที่มีอายุพรรษาได้ 18 พรรษาซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อน สำหรับสมณะศักดิ์ที่ได้รับจากเมืองยอง ขึ้นราชครูซึ่งต่ำกว่าเพียงชั้นสังฆราชาเพียงขั้นเดียวเท่านั้นจึงแสดงว่าได้รับเกียรติอย่างมาก ดังนั้นเดิมเมื่อได้รับก็จะนำสิ่งที่ได้มาต่อยอดทำบุญ เพราะไม่ได้มุ่งหวังสิ่งใดอยู่แล้ว แต่บรรดาลูกศิษย์และญาติโยมให้เก็บรักษาเอาไว้เป็นเกียรติประวัติ
ครูบาอริยชาติ กล่าวด้วย สาเหตุที่ตนได้รับเลือก เนื่องจากเคยไปทำบุญที่เมืองท่าขี้เหล็กติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และได้รับชักชวนให้ไปเมืองยอง ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนยอดฉัตรจากเงินให้เป็นทองคำพอดีทำให้ได้ร่วมทำบุญและได้รับเชิญให้ไปรับสมณะศักดิ์ดังกล่าว ทั้งนี้ในวันประกอบพิธีก็มีผู้ถวายปัจจัยเป็นเงินบาทกว่า 300,000 กว่าบาทและเงินจั๊ตของเมียนมากว่า 10 ล้านจั๊ตซึ่งก็ถวายทำบุญที่วัดพระธาตุเมืองยองทั้งหมดแล้ว
ด้านแหล่งข่าวพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ใน จ.เชียงราย กล่าวว่าสำหรับพิธีดังกล่าวภาพและข้อความที่ปรากฎในโซเชียล ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ต่อมาจึงกลายเป็นประเด็นขึ้นมา แต่หากจะว่าไปแล้วพิธีกรรมดังกล่าวก็เป็นประเพณีปฏิบัติที่กระทำกันในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงคือในเขตรัฐฉานมานานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการกระทำกันเป็นปกติ แต่เนื่องจากไม่มีพระสงฆ์จากฝั่งไทยเข้าไปร่วมจึงไม่เป็นประเด็นขึ้นมา จึงเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาบานปลายและจะยุติโดยเร็วหลังได้รับการชี้แจงแล้ว