สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1% ปิดที่ 61.04 เหรียญสหรัฐ หลังจีนขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเป็น 25% ขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง
เมื่อคืนวันจันทร์ (13 พ.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดที่ 61.04 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.62 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 1% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนก.ค. ปิดที่ 70.23 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 0.39 เหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.6%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะลุกลามต่อไป และทำให้เศรษฐกิจโลกตกต่ำ หลังจีนตอบโต้สหรัฐด้วยการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ มูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 25% จากเดิม 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับแรงกดดัน จากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และหันไปลงทุนสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของการซื้อขาย สัญญาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังซาอุดีอาระเบียออกมาระบุว่า มีการก่อวินาศกรรมเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำของซาอุดีอาระเบียนอกน่านน้ำสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะเพิ่มความเสี่ยงต่ออุปทานน้ำมันและทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวน
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14 พ.ค. ว่า เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจีนประกาศเพิ่มการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 62 เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐที่มีต่อผลิตภัณฑ์นำเข้าจากจีนเป็นวงเงินกว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐเมื่อสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดด้านอุปทาน หลังซาอุดิอาระเบียเผยว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย 2 ลำรวมอยู่ในเรือบรรทุกน้ำมัน 4 ลำที่ถูกโจมตีนอกน่านน้ำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สร้างความกังวลต่อการส่งออกน้ำมันดิบ เนื่องจากเหตุเกิดใกล้ช่องแคบ Hormuz ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญในการส่งออกน้ำมันดิบ
ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) คาดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน 7 แหล่งหลักของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 83,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน มิ.ย.2562 แตะระดับ 8.49 ล้านบาร์เรล/วัน