พ่อชาวต่างชาติเตรียมบินกลับไทย 12 เม.ย.นี้ หา ลูกครึ่ง 2 พี่น้องถูกทำร้ายร่างกาย ด้านเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าค้นห้องพักของแม่เด็กหลังพบยาเม็ดสีส้มในโต๊ะห้องนอน
ความคืบหน้ากรณี น้องลูก้า และ น้องดีม่า สอง พี่น้องลูกครึ่ง ที่เดินเท้าหนีออกจากบ้านย่านรามคำแหง ไปหาพ่อฝรั่งที่บ้านย่านบางชัน ก่อนมูลนิธิเข้าช่วยเหลือสองเด็กน้อยและนำกลับไปดูแลโดยเจ้าหน้าที่ พม. เนื่องจากเด็กยืนกรานไม่ยอมกลับไปอยู่กับแม่เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายซ้ำสอง
ล่าสุด 1 เม.ย. 2562 ทีมข่าวไบรท์นิวส์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล ด้านพ.ต.อ จิรกฤต จารุนภัทร์ ผู้กำกับการ ดส. เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบประวัติน.ส.รัต (นามสมมุติ ) แม่ของเด็ก พบว่าในปัจจุบันนี้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ย่านที่มีชาวต่างชาติพลุกพล่าน ซึ่งเชื่อว่าหน้าที่การงานมีความเป็นหลักแหล่ง
ส่วนประเด็นเคยต้องคดียาเสพติดนั้น พบว่ามีชื่อปรากฎในประวัติเมื่อหลายปีก่อน แต่จากพฤติกรรมในปัจจุบันทางญาติยืนยันว่า น.ส.รัตเลิกราจากสิ่งเหล่านี้ไปหมดแล้ว แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องสอบสวนเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เนื่องจากปัญหายาเสพติดอาจถือว่าสามารถสร้างปัญหาให้แก่เด็กได้ หากสองหนูน้อยต้องพักอยู่ใกล้บุคคลที่มีปัญหาเหล่านี้
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหา คุณมีมี่ เพื่อนสนิทชาวไทยของนายเลออง พ่อของเด็กทั้งสอง ระบุว่า ในขณะนี้นายเลออง ทราบปัญหาของลูกๆแล้ว จากการประสานงานของหน่วยงานไทย โดยเจ้าตัวเตรียมบินกลับมาเยี่ยมลูกในวันที่ 12 เมษายนนี้ ส่วนจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอรับสิทธิ์นำลูกกลับไปดูแลต่อหรือไม่นั้น ตนเองไม่มีข้อมูล เพราะเป็นเรื่องในครอบครัวของนายเลออง
ส่วนประเด็น นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เตรียมส่งมอบหลักฐานเพิ่มเติมให้แก่ตำรวจ กรณีพฤติการณ์ของแม่เด็ก ล่าสุดยังอยู่ระหว่างรวบรวมเนื่องจาก หลักฐานบางอย่างเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และจำเป็นต้องรอผลตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลรัฐบาลเพื่อมาประกอบสำนวน เช่นเดียวกับ หลักฐานจากคำบอกเล่าของเด็ก กรณียาต้องสงสัยสีส้ม ทางฝ่ายสืบสวนเตรียมขอหมายศาลเพื่อเข้าตรวจสอบห้องพักของ น.ส.รัต นำของกลางไปพิสูจน์ว่าแท้จริง เป็น ยาแก้โรคซึมเศร้า หรือ ยาเสพติด