ราคาน้ำมันดิบ WTI บวก 1.7% ปิดที่ 54.23 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน กังวลอุปทานน้ำมันลดลง หลังสหรัฐคว่ำบาตรเวเนซุเอลา ขณะที่สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด
เมื่อคืนวันพุธ (30 ม.ค.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 54.23 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.92 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 1.7% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปิดที่ 61.65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.33 เหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.5%
สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และสูงสุดในรอบ 2 เดือน หรือนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตร บริษัท ปิโตรเลออส เดอ เวเนซุเอลา (PDVSA) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา และจะมีผลทำให้อุปทานน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาลดลง
สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยสนับสนุน หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐว่าเพิ่มขึ้นเพียง 919,000 บาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียจะลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.พ.นี้ ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียลดลงเหลือ 10.1 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจทั่วโลกที่ส่งสัญญาณชะลอตัว ท่ามกลางข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหม่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากวอชิงตันและปักกิ่ง ได้เปิดตัวการเจรจาการค้ารอบใหม่ในวันพุธ ขณะที่ทางการจีนรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนต่ำที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี
ด้านบมจ.ไทยออยล์รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 31 ม.ค.ว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา (PDVSA) เพื่อเป็นการรกดดันรัฐบาลของเวเนซุเอลาภายใต้การนำของประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร
โดยการคว่ำบาตรครั้งนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลา ซึ่งมีการส่งอออกน้ำมันดิบยังสหรัฐราว 500,000 บาร์เรล/วัน
ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุน หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 919,000 บาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลง 2.2 ลานบาร์เรล สวนทางกับคาดการณ์
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลงจีนเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2561 อยู่ที่ 6.6% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 28 ปี และอัตราการว่างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.9% ในเดือน ธ.ค.2561
บมจ.ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าราคานํ้ามันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคานํ้ามันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 59-64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล