“สรรพากร” ยันดอกเบี้ยต่ำ 2 หมื่นบาท “ไม่เสียภาษี”-แจงวิธีใหม่ผู้ฝากเงินไม่ต้องแจ้งแบงก์

“สรรพากร-สมาคมธนาคารฯ” แจงแนวทางยกเว้น “ภาษี” รายได้ดอกเบี้ยเงินฝากไม่เกินปีละ 2 หมื่นบาท ให้แบงก์ส่งข้อมูลจ่ายดอกเบี้ยทุกบัญชีแก่สรรพากร ส่วนผู้ฝากเงินไม่ต้องทำอะไร แต่ยังได้สิทธิยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร และนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับแนวทางการส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ให้แก่กรมสรรพากร และการแก้ไขประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 344) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากที่ต้องจ่ายคืนเมื่อทวงถามประเภทออมทรัพย์ฯ

นายเอกนิติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้หารือร่วมกันกับธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องกันในการแก้ไขประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 344) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ฝากเงินบัญชีออมทรัพย์ส่วนใหญ่ทั่วประเทศให้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีต่อไป พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้กรมสรรพากร เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ฝากเงิน

สำหรับแนวทางการส่งข้อมูลดอกเบี้ยนั้น จะให้ธนาคารนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้แก่กรมสรรพากร และกรมสรรพากรจะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลจากธนาคารต่างๆว่า ผู้ฝากเงินมีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากเกินปีละ 2 หมื่นบาทหรือไม่ จากนั้นจะแจ้งกลับไปยังธนาคาร หากผู้ฝากเงินรายได้จากดอกเบี้ยไม่เกินปีละ 2 หมื่นบาทก็ไม่ต้องทำอะไร แต่หากมีรายได้ดอกเบี้ยเกินปีละ 2 หมื่นบาท ก็จะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก

นอกจากนี้ หากผู้ฝากเงินรายใดที่ไม่ประสงค์จะได้รับยกเว้นภาษีรายได้ดอกเบี้ยเงินฝาก จะต้องแจ้งแก่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยไม่ให้นำส่งข้อมูล ซึ่งธนาคารจะหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยดังกล่าวไว้ในอัตรา 15%

“การที่เราตกลงทำเช่นนี้ แปลว่าผู้ฝากเงินออมทรัพย์ส่วนใหญ่ ไม่ต้องทำอะไร ยกเว้นว่าท่านไม่อยากได้รับสิทธิได้รับยกเว้นภาษีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝาก 2 หมื่นบาท และไม่ต้องการให้ธนาคารส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร ก็ให้ท่านไปแจ้งธนาคาร ดังนั้น คนส่วนใหญ่ที่ไม่ไปแจ้งธนาคารก็จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝากตามปกติ และไม่ได้รับผลกระทบใดๆ รวมทั้งไม่ต้องกังวลว่าการแจ้งข้อมูลต่อธนาคารๆจะทำทันหรือไม่”นายเอกนิติกล่าว

นายเอกนิติ กล่าวว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างปรับปรุงประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามข้อสรุปของที่ประชุมร่วมกับธปท.และสมาคมต่างๆ

นายปรีดี กล่าวว่า การกำหนดให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ย ต้องนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยทุกบัญชีต่อกรมสรรพากร จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าบัญชีเงินฝากส่วนใหญ่ของประเทศ อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าที่ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว และไม่ต้องการให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยให้กรมสรรพากร ต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อแจ้งความประสงค์ที่ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยที่ลูกค้ามีบัญชีให้ครบทุกธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.2562 เป็นต้นไป โดยการแจ้งครั้งเดียวจะมีผลตลอดไป จนกว่าลูกค้าจะมาแจ้งเปลี่ยนแปลงเป็นอื่น

สำหรับลูกค้าที่มาแจ้งภายในวันที่ 14 พ.ค.2562 จะมีผลตั้งแต่รอบภาษีดอกเบี้ยจ่ายครึ่งปีแรกในเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป

รายงานข่าวแจ้งว่า เดิมประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 344) กำหนดให้ผู้มีเงินได้ที่ได้รับดอกเบี้ยและผลตอบแทนเงินฝาก ไม่เกินปีละ 2 หมื่นบาท ต้อง “ยินยอม” ให้ธนาคาร ซึ่งเป็นผู้จ่ายดอกเบี้ยและผลตอบแทนเงินฝาก นำส่งข้อมูลดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนเงินฝากต่อกรมสรรพากร เพื่อจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ เมื่อได้รับดอกเบี้ยและผลตอบแทนเงินฝาก ไม่เช่นนั้นจะต้องเสียภาษี หักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ของรายได้จากดอกเบี้ย

โดยหลังมีประกาศฉบับดังกล่าวออกมา ได้สร้างความสับสนและสร้างภาระให้ประชาชนผู้ฝากเงินเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ฝากเงินจะต้องไปลงทะเบียนกับธนาคารที่ตนเองมีเงินฝากอยู่ เพื่อให้สิทธิได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก สำหรับกรณีที่มีรายได้ดอกเบี้ยไม่เกินปีละ 2 หมื่นบาท ซึ่งต่อมาทางกรมสรรพากรได้หารือกับสมาคมธนาคารและผู้เกี่ยวข้เอง และนำไปสู่การปรับปรุงแนวทางการดำเนินการดังกล่าว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า