ปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผ่าป่าในภาคเหนือยังอยู้ในขึ้นวิกฤต ที่หลายภาคส่วนพยายามดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาฝุ่นละอองได้ โดยกรมควบุคมมลพิษ ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย มีค่า PM 2.5 อยู่ที่ 208 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่า PM 10 อยู่ที่ 288 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยสภาพตัวเมืองจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และตัวเมืองอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จากภาพมมุมสูงที่จุดชมวิววัดพระธาตุดอยเวาพบว่า มีปริมาณของหมอกควันปกคลุมอย่างหนาแน่น โดยมองแทบจะไม่เห็นเทือกเขา และย่านชุมชน
ขณะที่ประชาชนผู้ขับขี่ยานพาหนะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะสัญจร รวมทั้งกลุ่มบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายอาหารอยู่บริเวณหน้าด่านพรมแดน ซึ่งยังคงต้องใช้ทนกับสภาพหมอกควัน และสวมใส่หน้ากากอนามัยมาขายของ รงมถึงประชาชนที่มาซื้ออาหาร ก็สวมหน้ากากอนามัยอย่างมิดชิด เพื่อเลี่ยงหมอกควันพิษ
ล่าสุดนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้ออกประกาศแจ้งหน่วยงานทุกภาคส่วน ดำเนินกิจกรรมพ่นละอองน้ำพร้อมกันทั้งจังหวัดในพื้นที่ตั้งของหน่วยงานพื้นที่เกิดมลพิษ หรือแหล่งพื้นที่ชุมชนสำคัญ รวมทั้งแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดำเนินการฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่บ้านเรือน เช่นล้างหลังคาบ้าน รดน้ำต้นไม้ และฉีดล้างบริเวณหน้าบ้านทุกหลัง โดยให้เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันจันทร์ที่ 18 มีนาคมนี้เป็นต้นไป