สศอ.เตรียมหารือ สมอ. ประกาศมาตรฐานรถยนต์ “ยูโร 5” ภายใน 1-2 ปี หวังแก้วิกฤติฝุ่น PM2.5 ระยะยาว ระบุว่าแม้ทำให้ต้นทุนผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น แต่คุ้มเมื่อเทียบกับค่าซื้อหน้ากาก N95 ปีละ 2 แสนล้าน
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า วิกฤติปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในขณะนี้ ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากการสะสมของรถยนต์มาตรฐาน Euro 4 ซึ่งปล่อยฝุ่นควันจำนวนมาก ดังนั้น สศอ.จะประสานงานกับสำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อออกมาตรฐานบังคับสำหรับผู้ประกอบการรถยนต์ต้องผลิตรถให้ได้มาตรฐาน Euro 5
ทั้งนี้ มาตรฐานบังคับดังกล่าวจะกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ผลิตรถยนต์ใหม่ในประเทศต้องผ่านมาตรฐาน Euro 5 เป็นขั้นต่ำ ภายใน 1-2 ปี และกำหนดให้โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท (xEV) ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ต้องผลิตรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 6 โดยคาดว่าการยกระดับมาตรฐานตามสหภาพยุโรป (EU) จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 37,391 ตัน หรือลดลงจากเดิมประมาณ 80% ภายในปี 2564
นายณัฐพล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาไม่สามารถบังคับใช้มาตรฐาน Euro 5 ได้เนื่องจากค่ายรถบางค่ายชี้แจงว่าการบังคับเป็น Euro 5 จะทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 1.5-2 หมื่นบาท/คัน แต่เมื่อมีการประเมินต้นทุนจริงคิดว่าไม่น่าจะถึงเพราะสุดท้ายค่ายรถยนต์ก็ทยอยออกรถยนต์รุ่นใหม่ และพบว่าสามารถใช้น้ำมันมาตรฐาน Euro 5 เป็นส่วนใหญ่ได้โดยเฉพาะรถอีโคคาร์ 2 ขณะที่กระทรวงพลังงานเองก็เตรียมพร้อมโรงกลั่นในประเทศผลิตน้ำมัน Euro 5 ได้ทันทีเมื่อค่ายรถพร้อม
นายณัฐพล กล่าวว่า แม้ว่าการบังคับใช้มาตรฐาน Euro 5 จะทำให้ต้นทุนรถยนต์และราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่หากไม่มีการปรับอะไรประชาชนก็ต้องมีต้นทุนเพิ่มขึ้นอยู่ดี เพราะหน้ากาก N95 ที่ประชาชนซื้อมาใส่กันนั้น หากซื้อในราคาที่องค์การเภสัชกรรมขาย จะคิดเป็นเงิน 18,250 บาท/ปี/คน เฉพาะคนกรุงเทพ 11 ล้านคน คิดเป็นค่าหน้ากาก 2 แสนล้านบาท/ปี และแต่ละบ้านต้องซื้อเครื่องกรองอากาศอีก 19,900 บาท/ครัวเรือน ซึ่งไม่รวมค่าเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ
ปัจจุบันประเทศไทยมีรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 5 ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศ ได้แก่ Eco car phase 2 จำนวน 27 รุ่น และรถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ 11 รุ่น ในขณะที่มีรถยนต์นำเข้า 19 รุ่น ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 5 สำหรับรถยนต์ที่ผ่านมาตรฐาน Euro 6 ได้แก่ รถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ที่ผลิตภายในประเทศ 27 รุ่น และรถยนต์นำเข้า 84 รุ่น