ต้องบอกว่ากระแสกัญชามาแรงมากสำหรับนานาชาติ รวมถึงประเทศไทย แม้ว่ากัญชายังถูกจำกัดในกฎหมายว่าเป็นสารเสพติด ใครมีครอบครองถือว่าผิดกฎหมาย แต่ขณะนี้มี 2ประเทศที่ได้ประกาศ ออกมาเป็นกฎหมายว่า กัญชา สามารถเสพ และขาย ได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งเหตุผลก็เพื่อต้องการควบคุมคนซื้อ-คนเสพ ให้เข้ามาอยู่ในระบบเพื่อที่จะควบคุมได้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีผู้เสพกัญชาทั่วโลก 181.8 ล้านคน
ประเทศอุรุกวัย เป็นประเทศแรกที่เปิดให้ประชาชนซื้อ และ เสพกัญชา ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้เปิดให้ลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2561 โดยสามารถซื้อกัญชาได้โดยตรงกับนักเคมีหรือผู้เชี่ยวชาญที่ประจำอยู่ที่จุดตามเมืองและชุมชนต่างๆ อย่างที่ทำการไปรษณีย์ท้องถิ่น หรือร้านขายยาทั่วไปที่ขึ้นทะเบียนกับทางการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เป็นต้น 
17 ก.ค. 2561 ประเทศ แคนาดา เป็นประเทศที่ 2 ของโลก โดยชาวแคนาเดียนที่สามารถซื้อและเสพกัญชาได้ จะอนุญาตให้กับบุคคลาที่บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น โดยในรายงานระบุว่า แคนาดาถือว่าเป็นประเทศที่มีการใช้กัญชาสูงที่สุดโลก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ผลักดันให้กัญชาเป็นพืชถูกกฎหมายและออกกฎเกณฑ์ควบคุมการขายกัญชา ตามที่หาเสียงไว้ในการเลือกตั้งเมื่อ 3 ปีก่อน โดยแต่ละรัฐ จะเป็นผู้กำหนดรายละเอียดในการขายเอง เช่น สถานที่ซื้อขายหรือที่ซึ่งอนุญาตให้ใช้กัญชาได้
ขณะที่ บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลแคนาดา นำโดยนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ได้รับปากกับชาวแคนาดาตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้งปี 2558 ว่า รัฐบาลเสรีนิยมจะทำงานเพื่อออกนโนบายกัญชาถูกกฎหมาย และออกกฎเกณฑ์ควบคุมการขายกัญชา เพื่อช่วยคุ้มครองหนุ่มสาวชาวแคนาดาและป้องกันอาชญากรจากการหากำไรในตลาดมืด
โดยใช้เวลา 3 ปี ในการผลักดันให้ออกกฎหมายอนุญาตให้ประชาชนครอบครองและใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ หลังจากแคนาดาได้มีกฎหมายอนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ตั้งแต่ปี 2554 โดยรัฐบาลกลางแคนาดา ประเมินว่า จะสามารถจัดเก็บภาษีจากการขายกัญชาได้ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 13,000 ล้านบาทต่อปี
นายกรัฐมนตรีทรูโด ได้รับปากกับชาวแคนาดาตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้งปี 2558 ว่า รัฐบาลเสรีนิยมจะทำงานเพื่อออกนโนบายกัญชาถูกกฎหมาย และออกกฎเกณฑ์ควบคุมการขายกัญชา เพื่อช่วยคุ้มครอง หนุ่มสาวชาวแคนาดาและป้องกันอาชญากรจากการหากำไรในตลาดมืด ท่ามกลางข้อโต้แย้งในหลายเรื่องของปัญหาที่อาจเกิดตามมา เช่น ความเสี่ยงความปลอดภัย และสุขภาพ รวมทั้งกำลังของเจ้า หน้าที่ตำรวจในการเข้มงวดกวดขัน คนขับรถที่เสพกัญชา
ส่วนประเทศไทย ขณะนีรัฐบาล ก็อยู่ระหว่างดูแง่กฎหมายเพื่อรองรับกัญชา ให้เป็นพืชที่สามารถใช้ทางการแพทย์ หลังจากที่ผลวิจัยออกมาระบุว่า กัญชา สามาถรักษาโรคไดเจริง ซึ่งก็คงต้องรอดูว่ารัฐบาล จะออกประกาศทางเป็นทางการเมื่อไหร่
