หลังจากที่ชัดเจนแล้วว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และในช่วงที่ผ่านมาแต่ละพรรคการเมืองประชุมพรรคกันอย่างคึกคักเพื่อเฟ้นหาหัวหน้า และกรรมการบริหารพรรค รวมถึงสมาชิก พรรค โดยเฉพาะพรรคใหญ่ๆ และพรรคเกิดใหม่บางพรรคถูกปั้นขึ้นมาเพื่องานนี้ เพราะต้อง บอกว่า การเลือกตั้งรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมาทุกครั้ง ดังนั้นการวางหมาก หรือ ยุทธศาสตร์ ต้องแยบยลที่สุด เพื่อช่วงชิงความเป็นใหญ่
อย่างพรรคเพื่อไทย นายใหญ่ “ทักษิณ” ลงมาบัญชาการและวางหมากเอง และพร้ออมแล้วที่จะสู้ศึก โดยหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้นัดแนะกับตัวแทนพรรค เพื่อหารือการเมืองกันที่ ฮ่องกง ผลสรุปยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย คือ “แยกกันเดิน ร่วมกันตี ใช้แนวร่วม” โดยแบ่งเป็น 3กลุ่ม
กลุ่มที่สอง พรรคเพื่อธรรม เป็นพรรครองรับ มี สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค เป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง รองรับผู้สมัครเกรดบี เน้นนำคะแนนที่ได้มาเป็นคำนวนเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
โดยหนึ่งในสามชื่อเสนอชื่อเป็นนายกฯ มี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วย
กลุ่มที่สาม พรรคเพื่อชาติ แกนนำนายทุนคนสำคัญเสื้อแดง เช่น นายยงยุทธ ติยะไพรัช, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ได้ร่วมจดตั้งมานานหลายปี ได้รับรองการเป็นพรรคโดยสมบูรณ์จาก กกต.
พรรคเพื่อธรรม ที่จัดตั้งขึ้นมาในวงการเมืองรู้ดีว่า เป็นเสมือนพรรคพี่พรรคน้องกับเพื่อไทย โดยมีกระแสข่าวว่า “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวอดีตนายกฯ ทักษิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังพรรคนี้ เพราะ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ถือว่าเป็นคนใกล้ชิด “เจ๊แดง” ที่ร่วมกันดูแลพื้นที่ภาคเหนือให้พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย
และถัดมาชื่อพรรคเพื่อชาติ ก็โผล่ขึ้นมาในจังหวะนี้ ทำให้ผูกโยงกันว่าเป็นอีกสาขาของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีข้อมูลระบุว่า แนวคิดเรื่องพรรคเพื่อชาตินี้ มาจากไอเดียของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” อดีตประธานสภาผู้ แทนพรรคพลังประชาชน ที่โดนคดีทุจริตเลือกตั้งจนทำให้พรรคพลังประชาชนถูกยุบ
โดยยงยุทธได้ไปหารือกับ “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช. และมีการพูดคุยกับแกนนำ นปช.คนอื่นและชักชวนไปอยู่ พรรคเพื่อชาติ แต่ดูเหมือนแกนนำคนอื่นๆ จะไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเป็น เหวง โตจิราการ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก่อแก้ว พิกุลทอง โดยทุกคนยังยืนยันที่จะอยู่กับพรรคเพื่อไทย
จากข้อมูลของ กกต. พรรคเพื่อชาติ ยื่นตั้งพรรคไว้เมื่อ 18 กันยายน 2556 มีนายเถลิงยศ บุตุคำ และน.ส.รัชชสรา แก้วเกิดมี เป็นเลขาธิการพรรค โดยมีข้อมูลว่า แกนนำพรรคนี้คือ “สงคราม กิจเลิศไพโรจน์”
แหล่งข่าวในพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การวางยุทธศาสตร์การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นเพราะเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกบีบให้ พรรคต้องหายุทธวิธีใหม่ แยกกันเดิน ร่วมกันตี โดยสูตรนี้ จะเป็นการต่อสู้ กันทางการเมืองอย่างเต็มกำลังในสนามเลือกตั้ง ไม่มีการ เกี๊ยเซี๊ยะ เป็นนอมินีหรือมาประณีประนอมกัน เพราะทุกคะแนนเสียงมีความหมาย
วันนี้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย เพื่อธรรม เพื่อชาติ ซึ่งเป็นหมากที่ “นายใหญ่ทักษิณ” จะวางไว้อย่างไร คงไม่มีใครคาคการณ์ได้ และใครจะเข้าวิน เพราะยังมีพรรคพลังประชารัฐ ที่ซ่องสุมกำลังพล และไม่เพียงเท่า นั้น พรรคอนาคตใหม่ ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ก็จะเป็นอีกพรรคที่มาแรง พ่วงด้วยพรรคประชาธิปัตย์
เกมนี้คงต้องรอดูกันชัดๆอีกครั้ง หลังประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งช่วงปลายเดือนธันวาคม หรือต้นมกราคมปีหน้า ว่า “พรรคไหนจะวางกระดานหมากเกมนี้อย่างไร”