ตลอดระยะเวลาตลอด 7 ทศวรรษ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นอันดับต้น ๆ ทรงมีพระประสงค์ให้ประชาชนมีความรู้ เพราะถ้าหากประชาชนมีความรู้ ก็จะสามรถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ดังพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาที่พระองค์พระราชทานในหลายโอกาส
เมื่อพูดถึงเรื่องของสถาบันการศึกษา หนึ่งในความใฝ่ฝันของเด็กมหาวิทยาลัยเกือบทุกคนคือ ครั้งหนึ่งในชีวิต ขอแค่มีโอกาสได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เอง ตั้งแต่ปี 2493 จนถึงปี 2540 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 49 ปี พระองค์ทรงเคยตรัสถึงเหตุผลที่มีพระราชประสงค์จะพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองกับราชเลขาธิการว่า
พระองค์ต้องการจะใกล้ชิดกับบัณฑิตใหม่แต่ละคน ในวินาทีที่รับพระราชทานปริญญาบัตรนั้น มือของบัณฑิตข้างหนึ่ง และพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ข้างหนึ่งจับอยู่บนกระดาษแผ่นเดียวกัน ถ้าสองมือทำงานไม่พร้อมกันกระดาษก็จะหล่นร่วงลง บัณฑิตที่มีโชคดีได้จับกระดาษแผ่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กระดาษแผ่นนั้น ก็จะมีความหมายมากกว่าไม่ใช่เพียงแค่กระดาษที่ใช้รับรองวุฒิการศึกษาเพียงเท่านั้น
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ มีพระราชประสงค์ที่จะทรงสอนบัณฑิต ที่อาจจะไม่ได้กลับมาเรียนหนังสืออะไรเพิ่มเติมจากมหาวิทยาลัยอีกแล้ว ว่าบางครั้งคนเราก็ต้องทำอะไรที่ไม่ใช่ความสุขของตนเองเป็นความเหนื่อยยาก อย่างเช่นที่พระองค์ทรงมาพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เอง แต่เพื่อประโยชน์ของคนอื่น สิ่งนี้ทรงสอนด้วยการกระทำให้เป็นแบบอย่างในเรื่องของการเสียสละเพื่อส่วนรวม และทรงหวังว่าบัณฑิตจะได้นำไปเป็นแบบอย่างและนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป
พระองค์จึงทรงพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองเสมอมา กระทั่งเมื่อทรงมีพระประชวร จึงโปรดให้พระราชวงศ์เสด็จแทน โดยให้จัดพิธีจะประดับธงพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ใช้เพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อมีผู้แทนพระองค์เสด็จฯ ถึง และหน้าที่ประทับจะมี “พระครุฑพ่าห์” สัญลักษณ์พระมหากษัตริย์ เพื่อสื่อความหมายว่า เสมือนพระมหากษัตริย์เสด็จฯ มาด้วยพระองค์เอง…
สำหรับพระราชกรณียกิจพระราชทานปริญญาบัตรพบว่า มีการพระราชทานปริญญาบัตรจำนวนทั้งสิ้น 490 ครั้ง บางครั้งใช้เวลานานถึง 10 วัน วันละ 3 ชม. มีบัณฑิตเข้ารับพระราชทานประมาณ 470,000 คน
พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์จำนวน 940,000 ครั้ง เคยมีผู้คิดน้ำหนักของปริญญาบัตรได้ฉบับละ 3 ขีด รวมทั้งสิ้น 141 ตัน