“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระปฐมบรมราชโองการ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อครั้ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ดูจะเป็นสิ่งที่กึกก้องอยู่ในความทรงจำของปวงชนชาวไทยทุกผู้ ซึ่งตลอดรัชสมัยของพระองค์ได้ทรงแสดงให้เห็นแล้วว่าพระปฐมบรมราชโองการนี้มีความจริงแท้ที่งดงามเพียงใด
ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยพระราชทานสัมภาษณ์นักข่าวที่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างการเสด็จฯ เยือนยุโรป ใน พ.ศ. 2503 ว่า “การเป็นกษัตริย์ถือเป็นอาชีพที่ค่อนข้างจะมีลักษณะพิเศษ เพราะว่าไม่มีการเรียนการสอนให้เป็นกษัตริย์ แต่โดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเป็นอาชีพอย่างหนึ่ง…เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงต้องทำหน้าที่ตรงนี้ให้ชำนาญ และก็ต้องรู้ในทุกๆ เรื่องอย่างละนิด เพื่อที่จะสามารถทำความเข้าใจปัญหาที่มีในทุกๆ ด้าน”
เหล่าอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์คงจะได้เห็นแล้วว่าได้ทรงประกอบ ‘อาชีพกษัตริย์’ ด้วยพระปรีชาสามารถจนพบวิถีทางและรูปแบบ ‘อาชีพ’ ของพระองค์เอง ด้วยการหลอมรวมศิลปวิทยาการที่ทรงศึกษาร่ำเรียนมาประยุกต์ให้เข้ากับสภาพวิถีไทย ทรงศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรผ่านการเสด็จพระราชดำเนินไปทั่วประเทศ จนเรียกได้ว่าบนแผ่นดินไทยนี้ไม่มีผู้ใดรู้จัก ‘ไทย’ มากไปกว่า ‘พ่อของปวงชนชาวไทย’ อีกแล้ว
‘งาน’ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำใน ‘อาชีพกษัตริย์’ นั้น เกิดให้พวกเราชาวไทยเห็นเป็นรูปธรรม ด้วยทรงมี ‘หลักปฏิบัติงานที่ดี’ ประกอบรวมทั้งความมีวินัย ความตั้งใจจริง และมีหัวใจเสียสละที่พร้อมลงมือทำงานทุกสิ่งให้สำเร็จลุล่วงเพื่อเหล่าปวงประชาของพระองค์ โดยหลักปฏิบัติงานของพระองค์ก็คือ “ธรรม” 10 ประการสำหรับนักปกครองที่ดี ตามหลักคำสอนพระพุทธศาสนา ที่ได้ทรงประกาศไว้ตั้งแต่วันแรกของการเริ่มงานใน ‘อาชีพ’ ของพระองค์ … ธรรมดังกล่าวนั้นคือ ‘ทศพิธราชธรรม’
นอกจากนี้ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจราชสำนักประจำ ผู้ถวายอารักขาตั้งแต่ พ.ศ. 2509 ได้เคยบอกเล่าไว้ในหนังสือ “สองธรรมราชา” ว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันมากมายอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อยหรือเบื่อหน่ายเลย ด้วยทรงยึดหลัก ‘อิทธิบาท 4’ ในการทรงงาน อันได้แก่ ฉันทะ คือ ความชอบในงานที่ทำ วิริยะ คือ ความพากเพียรอย่างไม่ย่อท้อ จิตตะ คือ การตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และ วิมังสา คือ การหมั่นใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรอง ตรวจสอบ และทบทวน ทำให้ในยามที่มีอุปสรรคขัดข้องไม่ว่าครั้งใดก็ตาม ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะไม่ทรงหวั่นไหว แต่ทรงดำรงพระสติมั่น และพระราชทานคำแนะนำ ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมีกำลังใจและผ่านอุปสรรคดังกล่าวนั้นไปได้
‘อาชีพกษัตริย์’ ที่กอปรด้วย ‘ธรรม’ นี้เอง ที่ทำให้ประชาชนชาวไทย ‘อยู่เย็นเป็นสุข’ ทุกข์ร้อนคราใดก็มี ‘พระราชาผู้ทรงธรรม’ เสด็จฯ ไปทรงช่วยขจัดปัดเป่าให้ทุกข์คลายอยู่เนืองนิตย์โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ด้วยเหตุนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงสถิตอยู่ในใจปวงชนชาวไทยมิเสื่อมคลาย
เรื่องที่เกี่ยวข้อง :
“ทศพิธราชธรรม” ๑๐ ประการ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม”