เริ่มต้นที่ จ.เชียงใหม่ เกิดฝนตกหนักในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณเหนือน้ำตกแม่ยะ ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงถึง 175 มิลลิเมตร สูงที่สุดในประวัติการณ์ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลแรง ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ต้องสั่งปิดน้ำตกแม่ยะ เพื่อป้องกันเหตุอันตรายแก่นักท่องเที่ยว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในแหล่งท่องเที่ยว เฝ้าระมัดระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตลอด 24 ชม.
นอกจากนี้ ได้เกิดฝนตกหนักในหลายอำเภอ เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรเป็นบริเวณกว้างที่บ้านกองขากหลวง ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง ส่วนที่บ้านเวียงฝาง อ.ฝาง เกิดน้ำท่วมฉับพลัน มีประชาชนได้รับผลกระทบหลายครอบครัว ล่าสุด ปภ.เชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว
มาต่อกันที่ จ.พิจิตร ยังคงวิกฤติหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำยม อำเภอบึงนาราง น้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้าน ประชาชนกว่า 20 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมยาวนานกว่า 2 เดือน ล่าสุดระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมชั้นสองของบ้าน
ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการนำโต๊ะตั้งกับพื้นบ้านเพื่อใช้เป็นที่เก็บสิ่งของมีค่า และบริเวณที่เป็นที่นอน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “หนุนนอน” ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เนื่องจากต้องนอนในบ้านที่ถูกน้ำท่วมเสี่ยงกับสัตว์มีพิษที่อาจจะเข้ามาภายในบ้านได้ทุกเวลา ทั้งยังขาดห้องสุขา ทำให้ต้องพายเรือออกไปปลดทุกข์กลางน้ำ
ส่วนสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท พบว่า ปริมาณน้ำยังไหลเข้าเขื่อนในปริมาณสูงวัดได้ถึง 3,044ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้เขื่อนเจ้าพระยา ต้องเพิ่มการระบายน้ำขึ้นเป็น 2,698ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่งผลให้บริเวณท้ายเขื่อนตั้งแต่ ต.บางหลวง ต.ตะหลุก ต.สรรพยา ต.หาดอาษา ต.โพนางดำออก และ ต.โพนางดำตก ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมสูงมากว่า 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ จ.ชัยนาท มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 2,800 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องขนของอพยพขึ้นมาอาศัยอยู่บนถนนกว่า 700 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 16,000 ไร่
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ทั้งประเทศมีอยู่ 19 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึงยังไม่มีผลกระทบต่อกรุงเทพฯ แต่จะกระทบกับประชาชนในบางจังหวัดที่อยู่แนวริมแม่น้ำที่เอ่อล้นจากการปล่อยน้ำจากเขื่อนต่างๆ และจะไม่กระทบต่อการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในจังหวัดต่างๆ ตามภูมิภาค ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า แต่ละจังหวัดสามารถจัดงานพระราชพิธีได้
“ทั้งนี้ แต่ละจังหวัดจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ของตัวเองด้วย ส่วนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและต้องการเข้าร่วมพระราชพิธี จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางมาเข้าร่วมพระราชพิธีได้” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว