รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเผย พบมีเจ้าหน้าที่ที่ก่อเหตุลวนลามพนักงานข้าราชการอีก 1 ราย ขณะนี้ กำลังเร่งสอบปากคำ หลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ระบุหากพบความผิดจะมีโทษทั้งทางวินัยแรงร้าย และทางอาญา
ความคืบหน้ากรณีลูกจ้างหญิงร้องเรียน หัวหน้ากลุ่มภารกิจอำนวย ที่ลวนลามเจ้าหน้าที่หญิงภายในอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ล่าสุดตั้งคณะกรรมสอบผู้กระทำผิดแล้ว มีมูลความจริง นั้น วันนี้ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า เบื้องต้นได้การสอบสวนข้อเท็จจริงพบมีมูลความจริง ส่วนจะถึงขั้นสอบวินัยร้ายแรงหรือไม่ ต้องรอผลสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มอีก 1 ราย จึงจะสามารถสรุปข้อเท็จจริงได้ หากข้าราชการคนดังกล่าวกระทำความผิดวินัยขั้นร้ายแรง จะต้องถูกไล่ออกจากราชการตามระเบียบวินัยของกระทรวง จึงอยากให้ทุกฝ่ายมั่นใจผลการสอบสวนจะเป็นธรรมอย่างแน่นอน และยืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่หญิงทุกคนที่ให้ข้อมูลจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงาน สำหรับการป้องกันปัญหาการลวนลามที่ลูกจ้างส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง กระทรวงได้วางกฎเกณฑ์และเปิดช่องให้ร้องเรียน
อย่างไรก็ตาม หัวหน้ากลุ่มภารกิจอำนวยการ ที่ลวนลามเจ้าหน้าที่หญิงภายในอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ถูกสั่งย้าย ไปอยู่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) เมือง ภายใต้สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมาแล้ว
ทั้งนี้ “ข้าราชการพลเรือนสามัญต้อง ไม่กระทำการอันเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.” คือ
การกระทำที่ถือเป็นความผิดฐานล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ
- ข้าราชการชายได้ลวนลามจับมือหญิงสาวในทางชู้สาวเป็นเหตุให้หญิงสาวได้รับความอับอาย 2. ข้าราชการชายเข้าไปนอนข้างๆ หญิงสาวในมุ้งคนละหลัง ซึ่งอยู่ในห้องเดียวกันและจับแขน หญิงสาวซึ่งนอนหลับอยู่ ทำให้หญิงสาวตกใจและไปแจ้งความดำเนินคดีแต่คู่กรณียอมความกันและฝ่ายหญิงถอนคำร้องทุกข์คดีอาญา แต่ทางวินัยก็ยังคงลงโทษได้
- ข้าราชการชายพยายามจะกอดข้าราชการหญิงเพื่อนร่วมงาน ซึ่งนั่งเล่นอยู่คนเดียว
- นายแพทย์ได้ตรวจรักษาคนไข้หญิงที่ป่วยเป็นโรคหอบ หลังสั่งยาเสร็จแล้ว ยังใช้มือจับเต้านม ของคนไข้หญิงอีก
และ5. ข้าราชการชายใช้มือลวนลาม จับมือ จับไหล่ และขาของหญิงสาว พร้อมกับกล่าววาจาในทาง ชู้สาว ให้หญิงสาวยอมเป็นภรรยาน้อย
ดังนั้นความผิดฐานล่วงละเมิดหรือคุกคามทาง เป็นการก่อความรำคาญให้แก่ผู้ทำงานหรือผู้ร่วมงานของผู้กระทำความผิด ซึ่งถือเป็น ความผิดวินัยต่อเพื่อนร่วมงาน ทั้งนี้ความผิดฐานล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศจัดเป็นความผิดวินัย ไม่ร้ายแรง และผู้ที่กระทำความผิดจะได้รับโทษ ซึ่งมี 3 สถาน คือ ภาคทัณฑ์ตัดเงินเดือน หรือลดเงินเดือน
อย่างไรก็ตาม หากพฤติการณ์แห่งการกระทำเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ย่อมถือเป็น ความผิดวินัยอย่างร้ายแรงได้ตามมาตรา 85 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายกรณีและผู้ที่กระทำความผิดจะได้รับโทษสถานหนัก คือ ปลดออก หรือไล่ออก