สาวไทยแชร์ประสบการณ์ติดตม.เกาหลี “เข้าห้องเย็นแต่ข้างในร้อนมาก” จากผู้ใช้งานเว็บบอร์ด Pantip สมาชิกหมายเลข 1034678 เปิดเผยรายละเอียดจากประสบการณ์จริงสดๆร้อนๆหลังถูกเหมารวมกับกลุ่มโรบินฮู้ด (ศัพท์เรียกแรงงานไทยที่แฝงตัวในคราบนักท่องเที่ยว) ประเด็นดราม่าเกี่ยวกับตม.เกาหลีที่ไม่ตรวจสอบเอกสารใดๆทั้งสิ้นจนเป็นที่มาของ 2 ชั่วโมงเฉียดนรกในห้องกักกันที่มีคนไทยนับร้อยอัดแน่นเป็นปลากระป๋อง
ประเด็นดราม่าเกี่ยวกับมาตรการตรวจคนเข้าเมืองประเทศเกาหลีใต้ที่ปฏิเสธการผ่านด่านตม.เกาหลีของคนไทยเป็นจำนวนมากด้วยเหตุผลที่ไม่ Make Sense สร้างความเดือดร้อนแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องเสียทั้งเงิน เวลา และความรู้สึก สืบเนื่องมาจากตม.เกาหลีขึ้นทะเบียนคนไทยติดแบล็คลิสต์ประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษเพราะมีการหลั่งไหลของแรงงานผิดกฎหมาย นักแสดงโชคที่อยู่เกินระเวลา หรือโสเภณี วันนี้มีอีกเคสที่น่าสนใจเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานที่ไร้มาตรฐานของเจ้าหน้าที่จากปากคำของสาวไทยที่เพิ่งประสบเหตุมาสดๆร้อนๆ
เริ่มแรกสาวไทยเกริ่นรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเธอว่าปกติเดินทางไปเกาหลีใต้บ่อยมากเพราะสามีของเธอเป็นชาวเกาหลีใต้แท้ๆที่เพิ่งจดทะเบียนสมรสกันไป รวมทั้งเธอยังทำงานในต่างประเทศที่มีเอกสารสากล Working Visa Card ที่ใช้มาทั่วโลกบ่งบอกรายละเอียดยืนยันตัวตนชัดเจน ซึ่งปกติการเดินทางผ่านตม.เกาหลีทุกครั้งไม่เคยมีปัญหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ถัดมาสาวไทยคนดังกล่าวเล่าว่าในคราวนี้เธอเลือกสายการบินของไทยแทนการใช้บริการสายการบินแห่งชาติเกาหลีเพราะราคาถูกกว่าพร้อมตั้งข้อสังเกตว่าผู้โดยสารชาวไทยบนเครื่องกว่าครึ่งดูเหมือนพวก “โรบินฮู้ด” (คนไทยที่ลักลอบใช้แรงงานในคราบนักท่องเที่ยว) ดูเหมือนว่าเธอเริ่มจะหวั่นใจเล็กๆกับสิ่งที่กำลังจะเจอ ณ ตม.เกาหลีอันเลื่องชื่อ
“เหตุการณ์สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีมีคนไทยต่อคิวเยอะมาก” เธอบอกผ่านตัวอักษร แต่จุดพีคคือการที่แฟนหนุ่มชาวเกาหลีของเธอสามารถเข้าประเทศบ้านเกิดในช่องทางพิเศษไปรอข้างในส่วนเธอดันไปยืนรวมตัวกับกลุ่มคนไทยที่น่าสงสัยว่าจะเป็นโรบินฮู้ดก่อนถูกเจ้าหน้าที่กว้านตัวรวมกันไปทั้งกลุ่มแถมยึด Passport (หนังสือเดินทาง) ไปโดยไม่ถามรายละเอียดใดๆ
ถัดมาเป็นบรรยากาศในจุดที่เธอเรียกว่า “ห้องเย็นแต่คนข้างในร้อนมาก” ซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้พิจารณาคัดกรองคนเพื่อตรวจสอบสถานะการเข้าเมือง “พอเราไปถึง ….. คือ…. ช๊อคมาก! มีคนไทยอยู่แออัดยัดเยียด เต็มไปหมด” ก่อนจะมีเอกสารมาให้กรอกข้อมูลซึ่งเธอระบุว่ามันคือ “ใบยินยอมปฏิเสธการเข้าเมืองของทางเจ้าหน้าที่” จนเป็นที่มาของการถกเถียงกันยกใหญ่
หลังการถกเถียงอันเผ็ดร้อนเธอเล่าต่อว่ามีกลุ่มคนไทยประมาณ 7 คน เข้ามารุมล้อมให้เธอช่วยพูดกับตม.เกาหลีให้ปล่อยตัวเข้าประเทศเพราะพวกเขาเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่านายหน้า ค่าประกัน หรือประเด็นดราม่าร้องห่มร้องให้ก็มี แต่ที่เด็ดคือมีการข่มขู่จากชายนิรนาม “มีน้ำใจหน่อยสิคุณ พูดหน่อยจะช่วยไหม? ทำไมไม่ตอบ ? พูดดีๆแล้วนะ” ทำเอาสาวเจ้าของกระทู้ถึงกับลมแทบจับหรือแม้กระทั่งการเสนอเงิน 20,000 บาท หากช่วยพูดกับเจ้าหน้าที่ให้ผ่านด่านไปได้
ผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ก็มีเจ้าหน้าที่พาตัวเธอไปอีกห้อง ณ ห้อง Immigration head officer เธอได้พบสามีชาวเกาหลีพร้อมคำขอโทษจากพนักงานเนื่องจากสามีของเธอขู่จะ Complain เรียกค่าเสียหายและแจ้งตำรวจ
อย่างไรก็ตามแม้เรื่องราวของสาวภรรยาหนุ่มเกาหลีรายนี้จะจบลงด้วยการผ่านเข้าประเทศไปได้แต่เธอก็ได้ติติงการทำงานของตม.เกาหลีที่ไม่ตรวจสอบเอกสาร สอบถามข้อมูล และเหมารวมการมาเป็นกรุ๊ปทัวร์ของคนไทยว่านี่คือกลุ่มเสี่ยงและจะทำการยึด Passport พร้อมส่งตัวกลับประเทศไปเลยในทีเดียว ในช่วงท้ายเธอได้ฝากคำแนะนำไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสองประเทศให้ร่วมมือกันแก้ปัญฆาดังกล่าวอย่างถูกวิธีและไปในทิศทางเดียวกันเพราะไม่อยากให้เอาประเด็นคนไทยที่ไปทำตัวแย่ๆในเกาหลีมาตัดสินภาพรวมคนไทยทั้งหมดนั่นเอง