สรุปให้ดราม่า ออม สุชาร์ ออกรายการโหนกระแสชี้แจง “ดาราฮุบกิจการ” ด้าน อ.ตฤณห์ โพสต์ล่าสุดตอบแล้ว งอนเรื่องอะไร
19 ก.ย. 68 ชาวเน็ตแห่ใส่ใจกันเพียบกรณีของ ดาราดังฮุบกิจการ หลังจากโพสต์ของ อาจารย์ตฤณ โพธิ์รักษา ที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยว่า ตนเองไม่ได้ไปร่วมรายการโหนกระแสแล้ว
ล่าสุด อาจารย์ตฤณห์ โพธิ์รักษา หรือ อาจารย์ตอง ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร และเป็นอาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก “Aj. Trynh Phoraksa” ว่า
ตนเองไม่ได้ไปร่วมรายการโหนกระแสแล้ว “เพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ผมได้ปรับคิวงานและตั้งใจจะไปร่วมโหนกระแสในวันนี้ แต่ได้รับแจ้งจากพี่หนุ่มว่ามีบางท่านไม่สะดวกใจถ้าจะมีผมนั่งร่วมในรายการ จึงไม่ได้ไปนะครับ”
ล่าสุดในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ที่มี หนุ่ม กรรชัย นั่งเป็นผู้ประกาศข่าว ก็ได้เผยว่า ในวันนี้ทาง ‘ออม สุชาร์’ พร้อมด้วย ‘อัง’ น้องสาวของออม จะมานั่งในรายการ และพี่หนุ่มได้ถามออมตรงๆ ว่าทำไมวันนี้ถึงไม่อยากให้อาจารย์ตฤณห์มา
ซึ่ง ออม สุชาร์ ตอบว่า “จากที่หนูดูเมื่อวาน หนูก็มีความงอนๆ นิดนึง เพราะว่าหนูก็มีความรู้สึกว่าอาจารย์ก็ยังไม่ได้ฟังเรื่องจากหนูเลย และมันก็มีคำพูดบางคำที่หนูเสียใจ ที่เขาพูดว่าหนูเป็นคนเหลี่ยมหรืออะไรอย่างนี้ แต่จริงๆ อ่ะ ถ้าหลังจากนี้หนูก็อยากคุยกับอาจารย์นะคะ หนูอยากให้อาจารย์ฟังมุมจากหนูบ้างเหมือนกัน” พี่หนุ่มบอกว่า แต่จริงๆ ก็น่าจะให้เขามานั่งเลยนะ ‘ออม สุชาร์’ บอกว่า “หนูยังไม่พร้อมค่ะพี่หนุ่ม”
ต่อมา อาจารย์ตฤณห์ โพธิ์รักษา ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความต่ออีกว่า “ผมก็งอนเป็นเหมือนกัน”

สรุปดราม่า ออม สุชาร์ หลังออกรายการโหนกระแส
โดยเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง ท่านเปา โพสต์ข้อความว่า สรุปดราม่า “ดาราฮุบกิจการ” ที่ถูกพูดถึงในรายการโหนกระแสจากบทสัมภาษณ์จากทางฝั่งของ ”ออม สุชาร์“
จุดเริ่มต้นธุรกิจร่วมกัน
ทางออมรู้จักพริมจากผู้จัดการเก่า (ศสา) และตกลงทำธุรกิจร่วมกัน
ตอนแรกหุ้นแบ่งเป็น พริม 51% / ออม 45% / ศสา 4% ออมยอมเพราะมองว่าตัวเองเป็นดารา ไม่ได้ถนัดเรื่องตัวเลข
ออมทราบว่าพริมเคยทำแบรนด์ RAD กับดาราท่านหนึ่ง แต่คิดว่าเลิกทำไปแล้ว เพราะไม่มีความเคลื่อนไหว พริมก็บอกว่าดรอปไว้
รอยร้าวที่เกิดขึ้นจากฝั่งออม
10 ม.ค. น้องสาวออม ( ชื่ออัง ) เจอไฟล์โลโก้ RAD ใน Google Drive
ออมจึงสงสัยว่าพริมยังทำแบรนด์อยู่ ทั้งที่ยืนยันว่าเลิกแล้ว
จากนั้นทางรายการจึงเปิดภาพที่ทั้งคู่คุยกัน โดยมีสินค้าของ RAD วางอยู่บนโต๊ะ คนดูจึงตั้งข้อสังเกตว่า “ออม สุชาร์“ จะไม่รู้จริงๆ หรือ
ฝั่งออมและทนายชี้ว่า RAD ถูกแบ่งเป็น 3 ช่วง
- RAD 1 ทำกับน้ำชา ทางออมอ้างว่าไม่มีงบรายงานการเงิน จึงคิดว่าทางพริมเลิกทำแล้ว
- RAD 2 จดทะเบียน ก.ย. 67 (หลัง Fleen) → พริมกับสามีเป็นกรรมการ → เข้าข่าย แข่งขันทางการค้า
- RAD 3 มีประเด็นว่าอาจขายต่อให้พี่สาวพริม
ประเด็นหุ้นและศสา
24 ม.ค. ออมเจรจากับศสาเรื่องหุ้น พร้อมยืนยันว่าไม่ได้อ้างบริษัทขาดทุน
ศสาขายหุ้น 4% ให้ราคา 2.5 ล้าน (ลงทุนจริง 1 แสน)
ต่อมา ศสาทราบว่าบริษัทมีกำไรสูง (ยอดขายบางเดือนถึง 49 ล้าน) → จึงพยายามต่อรอง แต่ช่วงโฟนอินทางศสายืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับราคาหุ้นที่ถูกหรือแพง
ออมและอังย้ำว่า พวกตนไม่รู้เรื่องงบการเงิน เพราะเรื่องนี้บริษัทให้เป็นพริมที่ดูแลอยู่
ค่าตัวพรีเซนเตอร์ 9.5 ล้าน
เคยตกลงกันว่าจะไม่เรียกค่าตัว แต่ภายหลังมีการเสนอค่าตัวออม 9.5 ล้าน
ออมชี้แจงว่าไม่ได้เบิกจ่าย แต่เป็นการใส่ตัวเลขให้เห็นต้นทุนแฝง เพื่อการบริหาร
ความขัดแยกในบริษัท
ออมไม่พอใจที่ไฟล์งาน (ลิปสติก) หาย ทั้งที่เข้าถึงได้แค่ 4 คน โดยมีการแจ้งความ
ทำให้ไม่ไว้ใจ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ → พริมถูกปลดออก
⸻
การซื้อ–ขายหุ้น
ศสามองว่า 4% = 2.5 ล้าน ถูกเกินไป แต่ฝั่งออมกลับมองว่าแพงแล้ว
ออมจึงเปรียบเทียบราคา ถ้า 4% = 2.5 ล้าน → หุ้น 52% ต้อง = 32.5 ล้าน
ฝั่งพริมเคยเสนอซื้อหุ้นออม 48% ที่ราคา 10 ล้าน (ตอนยังไม่รู้ว่าออมถือ 52%) ซึ่งทางออมต้องการให้มีการบิดราคากันไปมาแต่พริมเลือกที่จะไม่ต่อรองต่อ
จุดยืนของแต่ละฝ่าย
ออม สุชาร์ รัก Fleen และอยากทำต่อ จึงขอให้บริษัทกลางมาตีราคา เสนอซื้อทั้งหมดเอง เหตุผลหลักคือไม่ไว้วางใจพริมที่ไปเปิดแบรนด์ใหม่
พริม อยากปิดบริษัทและแยกย้าย เพราะรักแบรนด์เหมือนกัน แต่ไม่พอใจที่ออมไปซื้อหุ้นจากศสาลับหลัง
สรุปท้ายเรื่องนี้จะจบลงที่ศาลและข้อข้อกฎหมาย เกือบ 3 ชั่วโมงที่เจรจากันไม่ลงตัวและคนดูต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ ปวดหัว”
