แม่น้องชมพู่เปิดใจ คดีลุงพล-ป้าแต๋น ก่อนตัดสินคดี ยัน มั่นในหลักฐาน

วันที่ 19 ธันวาคม 2566 1 วันก่อนการตัดสินคดีลุงพล-ป้าแต๋น หลังจากศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ มาเป็นวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ในคดีที่ นายไชย์พล (สงวนนามสกุล) หรือ ลุงพล และ นางสาวสมพร (สงวนนามสกุล) หรือ ป้าแต๋น ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ โดย แม่น้องชมพู่เปิดใจ ถึงการตัดสินคดีในพรุ่งนี้ว่า “ยังคงมั่นใจเหมือนเดิมว่าจะได้รับความเป็นธรรม”

โดย แม่ของน้องชมพู่ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่ลงพื้นที่เก็บข้อมูล และจนนำไปสู่การออกหมายจับ พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ในคดีของของน้อง เราเชื่อในศาล ถ้าศาลชั้นต้นตัดสินออกมาแล้ว ต่อให้ผลไม่เป็นอย่างใจ เราก็ยังมีมีสิทธิ์อุทธรณ์ต่ออยู่แล้ว ส่วนเรื่องของโซเชียลที่มีการนำหลักฐานมาเปิดเผย เป็นข้อมูลทางลบกับฝ่ายโจทก์นั้น ตนไม่หนักใจเพราะ โซเชียลก็คือโซเชียล ไม่มีอะไรต้องกังวล

• ด่วน! จับมือยิงคดีครูเจี๊ยบ-น้องหยอด ได้แล้วหลังหนีกบดานเชียงใหม่
  
  
• ทนายดัง เผย! ขบวนการทัวร์บุญ หากินกับ ‘อ.น้องไนซ์’ มีหมอดูร่วมทีม?
  
  
• เขมรเหิมเกริม ประกาศศักดา โชว์อาวุธ เตรียมไล่ทำร้ายคนไทย

ในส่วนทางด้านของ ลุงพล-ป้าแต๋น เปิดเผยว่า “วันนี้ (19 ธ.ค. 66) จะไปขอพรที่วัด ก่อนที่ช่วงคำไปรับทนายความพร้อมไปฟังคำพิพากษา พร้อมระบุอยากให้ถึงวันนั้นไว ๆ เพราะจะได้รู้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะจบลงอย่างไร และไม่ว่าผลเป็นอย่างไร ก็พร้อมสู้กันต่อไป ไม่คิดอะไรมาก อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

โดยคดีนี้ อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ลุงพล-ไชย์พล และ ป้าแต๋น-สมพร สองสามีภรรยา เป็นจำเลยที่ 1-2 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
จำเลยที่ 1 นายไชย์พล ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร, ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปี ไว้ ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กนั้น พ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย, ร่วมกัน กระทำการใดๆแก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทําให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
จำเลยที่ 2 นางสาวสมพร ตามความผิดฐานร่วมกันกระทำการใดๆแก่ศพ หรือสภาพ แวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป