ความคืบหน้า เด็กพิเศษแทงเพื่อน ม.2 เสียชีวิต ล่าสุด หลังสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เผย ผู้ก่อเหตุพูดคุยรู้เรื่อง ด้านแม่เด็กก็ยังให้ข้อมูล
ความคืบหน้ากรณี เด็กพิเศษแทงเด็ก ม.2 กลางโรงเรียนหลังเข้าแถว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.35 น. วันที่ 29 มกราคม 2567 โดยเกิดเหตุที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ย่านพัฒนาการ ล่าสุด หลังนำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนพร้อมกับผู้ปกครองที่ สน.คลองตัน แล้วนั้น ทางด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน ได้เปิดเผยว่าจากการพูดคุยกับเด็ก 14 ปี (ผู้ก่อเหตุ) เปิดเผยว่า
ก่อนเกิดเหตุมีการท้าทายกัน แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเหตุใดจึงลงมือ แต่จากการพูดคุยกับเด็กพบว่า สามารถพูดจาตอบโต้รู้เรื่อง จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นพิเศษหรือไม่ ซึ่งแม่เด็กก็ยังไม่ได้ให้ข้อมูลในส่วนนี้ เบื้องต้นตำรวจคุมตัวนักเรียนผู้ก่อเหตุไปที่ สน.คลองตัน และสอบถามเบื้องต้นเท่าที่พูดคุยนักเรียนที่ก่อเหตุให้การได้ปกติ ไม่มีอาการเป็นลักษณะเด็กพิเศษ เมื่อสอบถามจากทางโรงเรียนก็ไม่มีประวัติการรักษา กฎหมายจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ซึ่งต้องส่งให้แพทย์ไปตรวจสอบ การสอบถามถึงสาเหตุการก่อเหตุ
ทั้งนี้ยังมีข้อมูลอีกมุมจาก พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นนั้น พบว่า เด็กนักเรียนที่ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 2 แต่อยู่คนละห้อง สาเหตุของการก่อเหตุในวันนี้ คาดว่าเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุโดนกลั่นแกล้งอย่างต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ จึงมีความคับแค้นใจ แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาความจริงที่แน่ชัด
แม่ผู้เสียชีวิตทำใจไม่ได้….ยังไม่ได้เห็นร่างลูก
ขณะที่ ครูผู้สอน นั้นประเมินพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุว่า เป็นเด็กสมาธิสั้น ไม่นิ่ง พร้อมกันนี้ แม่ของผู้เสียชีวิตก็ได้เดินทางไปยัง สน.คลองตัน เช่นเดียวกัน โดยแม่มีอาการเศร้าโศกและทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูกชาย ซึ่งระหว่างเดินเข้าห้องสอบสวน แม่ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกสั้นๆว่า “จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เห็นร่างของลูกเลย”
อย่างไรก็ตาม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า กทม. ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ และผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล และร่วมกันแถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ตนขอความเสียใจหลังเกิดเหตุสลดขึ้น ภายในโรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ จากกรณีนักเรียน ใช้อาวุธมีดแทงกันจนเสียชีวิต มองว่าเป็นเหตุการณ์ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนมีนโยบายในการป้องกันตรวจตราอาวุธ ด้วยการตรวจกระเป๋าเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นการสุ่มตรวจอาจจะตรวจไม่หมด 100%
