คนวงการมวย ติดโควิด-19 แนะอย่าตกใจ เป็นได้ก็หายได้

คนวงการมวย โพสต์เฟซบุ๊กแนะนำ 5 ข้อ หลังติดโรค โควิด-19 ไม่ต้องตกใจเพราะโควิดเป็นได้ก็หายได้ แค่ช้าหรือเร็ว

23 มี.ค. 63 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tong Muaythai ผู้ที่อยู่ในวงการมวยได้โพสต์รูปภาพและข้อความขณะนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช โดยได้เล่าประสบการณ์ โควิด-19 (Covid-19) พร้อมคำแนะนำกับคนที่ติดเชื้อหรือกำลังกังวลว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่

โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่า ใครกำลังกังวลว่าจะติดโควิด ผมมีคำแนะนำนะครับ

  1. สำรวจตัวเองว่ามีความเสี่ยงไหม หมายความว่า คนใกล้ชิดของคุณต้องติดเชื้อแล้ว !!! อันนี้ถึงเรียกว่าเสี่ยงจริงนะครับ
    ยํ้าว่าใกล้ชิดมากๆชนิดที่หายใจรดกัน กินข้าวจานเดียวกัน กินนํ้าแก้วเดียวกัน กอด จูบกัน สัมผัสกัน ประเภทเคยเดินสวนกัน ยืนคุยกัน กินข้าวแต่คนละจาน คนละแก้ว เตะบอลกัน ไปวิ่งไปเล่นกีฬาที่ไม่สัมผัสตัวกัน แบบนี้ไม่นับนะจ๊ะ !!!!
    จริงๆหมอบอกว่า คนที่จะแพร่เชื้อได้คือคนที่มีอาการแล้ว เพราะเชื้อมันมีปริมาณมากพอ และแพร่ไปทางของเหลวที่ออกจากร่างกาย ผ่านการไอ จาม เป็นละอองฝอย เพราะฉะนั้นก่อนมีอาการ โอกาสแพร่เชื้อจึงน้อยมากๆๆ กลุ่มเสี่ยงจึงเป็นคนใกล้ชิดที่สัมผัสผู้ป่วยในช่วงที่ออกอาการแล้วเป็นหลักครับ แล้วดูย้อนหลังประมาณ 3-5 วันก็พอ

  2. ถ้ามีข้อ1 ก็ทำตามนี้ คือ กักตัวเอง 14 วัน !!! ยังไม่ต้องไปตรวจใดๆทั้งสิ้น เพราะถึงไปก็อาจไม่เจอเชื้อ แถมไปเพิ่มภาระให้เจ้าหน้าที่รพ.อีก แทนที่เค้าจะเอาเวลาไปดูแลคนป่วยจริงๆ ยํ้าอีกที !!! ไม่ต้องรีบไปตรวจ อย่าตื่นตระหนกจนไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นดีกว่า แค่ดูแลตัวเองให้ดีก็พอนะครับ !!!

  3. ขณะที่กักตัวเอง ถ้าเกิดมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ เจ็บคอ ไอ เมื่อยเนื้อตัว หายใจลำบาก หืดหอบ เหนื่อยผิดปกติ ก็คืออาการป่วยต่างๆนี่ล่ะ จึงรีบไปหาหมอให้เค้าตรวจจริงจัง อย่าลืมว่าตอนออกจากบ้านก็ต้องป้องกันอย่าแพร่เชื้อระหว่างทางด้วยนะครับ

  4. ถ้าผลตรวจเป็นบวก ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะว่าคุณติดโควิดแล้ว แต่ไม่ต้องตกใจหรือกังวลใจเกินไป เพราะ #โควิดเป็นได้ก็หายได้
    ทางรพ.จะบอกแนวทางการรักษาของแต่ละคน จริงๆแล้วก็คือ รักษาตามอาการนั่นเอง เพราะโรคนี้เป็นโรคใหม่ล่าสุดของมวลมนุษยชาติ จึงยังไม่มียารักษาหรือวัคซีนป้องกันที่ชัดเจน แต่ตามหลักของธรรมชาติร่างกายของมนุษย์นั้นน่าอัศจรรย์ เมื่อมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจะพยายามกำจัดมันเอง บางโรคที่เรารู้จักมันแล้ว ร่างกายก็กำจัดมันง่ายหน่อย แต่เชื้อโควิดมันมาใหม่ ร่างกายอาจใช้เวลาทำความรู้จักและกำจัดมันนานหน่อย ก็แค่นั้นเอง

ความน่ากลัวอยู่ที่ บางคนร่างกายไม่แข็งแรงอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและปอด ไวรัสตัวนี้ก็จะมีอานุภาพการทำลายล้างเยอะหน่อย คนกลุ่มนี้จึงต้องระวังเป็นพิเศษ ส่วนคนปกติ อย่ากังวลไปเลย ยังไงก็หาย แค่ช้าหรือเร็วแล้วแต่คนไป

หมอจะให้คนที่มีไข้ก็กินพาราลดไข้ คนที่ไอก็กินยาแก้ไอ มีนํ้ามูกก็กินยาลดนํ้ามูก คนเจ็บคอก็กินยาฆ่าเชื้อไป เดี๋ยวอาการก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง การรักษามีแค่นี้เอง

ที่ศิริราช มีวิธีรักษาเพิ่มอีกหน่อย คือ ให้ยาต้านไวรัส(8เม็ด/วัน) และ ยาแก้มาลาเรีย (2เม็ด/วัน) ทั้งหมด 5 วัน เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัส ( ได้ผลหรือไม่ก็แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน เพราะอย่างที่บอกว่า ยังไม่มีการยืนยันจากกรมอนามัยโลกว่า มียารักษาโควิดได้ผล 100%) ยาทั้งสองตัวนี้ มีผลข้างเคียงค่อนข้างหนัก เพราะยาแรงมาก ตอนผมกิน มีอาการ คลื่นไส้ พะอืดพะอมตลอดเวลา มึนหัว หายใจลำบาก กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ กินไม่ได้ ทรมานสุดๆ บางครั้งคิดว่าตัวเองจะไหวไหม มันแย่มากๆ แต่หมอและพยาบาลจะคอยดูแลเรา รักษาตามอาการต่างๆ ประคับประคองให้ผ่านช่วง 5 วันอันตรายไปให้ได้ ผมได้คุยกับคนไข้คนอื่นๆ ก็มีอาการเดียวกันเกือบหมด มากบ้างน้อยบ้าง ทรมานเหมือนกัน

หลังจากหยุดยา อาการต่างๆจะดีขึ้นเรื่อยๆ กินได้ นอนหลับ ความเครียดจะลดลงไปได้เยอะเลย

สุดท้ายคุณหมอบอกว่า โดยเฉลี่ยคนที่เป็นโควิด ใช้เวลารักษาตัวจนเชื้อหมดประมาณ 7-30 วัน แล้วแต่สภาพร่างกายความแข็งแรงของแต่ละคน เมื่อผลตรวจเป็นลบ 2 ครั้งติดก็กลับบ้านได้ ถือว่าหายขาดแล้ว และร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันโรคนี้ไปอีกนานเลย โอกาสติดเชื้อยากขึ้นและถ้าติดอีกก็จะหายไวขึ้น ถือเป็นข้อดีก็ว่าได้นะครับ
ตอนนี้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โอกาสติดเชื้อมีอยู่ตลอด แค่เราป้องกันตัวเองดีๆ ดูแลคนรอบข้าง รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ไม่จำเป็นงดการเดินทางไปเลย ใช้ชีวิตอย่างมีสติที่สุด อย่าเอาแต่เสพข่าวแล้วไม่ป้องกัน อย่าวิตกจนพากันเครียด เพราะสุดท้ายแล้ว เราอาจไม่ติดโควิดแต่เราจะเสียสติจากสิ่งที่เรากังวลเกินไปก็เป็นได้นะครับ

โควิดเป็นได้ก็หายได้

เดี๋ยวกูจะหายให้ดู

ปล.ข้อเขียนนี้เป็นแค่ความเห็นและประสบการณ์ส่วนตัวของผม ไม่มีข้อมูลอ้างอิงใดๆทางการแพทย์นะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่กังวลใจอยู่นะครับ แชร์ได้เลย ผมยินดี

อ่านข่าว Bright Today

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ล่าตัว ‘แก๊งพระล่าสัตว์’ อึ้ง! รองเจ้าคณะจังหวัดก็ร่วมด้วย ยังลอยนวลอีก 7

รองเจ้าคณะจังหวัด ก็เอากับเขาด้วย! แก๊งพระสงฆ์-ฆราวาส ล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จับได้ 2 ราย หนีไปได้อีก 7

ฤกษ์งามยามดี! ธัญญ่า-อาโล่ ควงคู่จดทะเบียนสมรสแล้ว

ธัญญ่า อาร์ยาม-อาโล่ เวียงแก้ว ควงคู่จดทะเบียนสมรสแล้ว! งานนี้ด้านแฟนๆ แห่แสดงความยินดีกันอย่างมากมาย

กุ๊บกิ๊บ-บี้ ประกาศตามหาหลานชาย หลังติดต่อไม่ได้นาน 2 วัน วอนช่วยเป็นหูเป็นตา

กุ๊บกิ๊บ-บี้ โพสต์ประกาศตามหาหลานชาย น้องติวเตอร์ หลังติดต่อไม่ได้นานถึง 2 วัน พร้อมแจ้งเบาะแสเพิ่มเติม วอนโซเชียลช่วยเป็นหูเป็นตา

ปารีณา ซึ้งใจ! ปรี่คุกเข่าก้มกราบ ‘บิ๊กป้อม’ มาร่วมงานศพพ่อ

ปารีณา คุกเข่าก้มกราบ ‘บิ๊กป้อม’ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ้งใจ ให้เกียรติมาร่วม งานศพพ่อทวี ด้าน ‘ชวน – หญิงหน่อย’ เดินทางร่วมไว้อาลัยด้วย

เอส กันตพงศ์ อัปเดตชีวิตครั้งแรก! เผย ความทรงจำในอดีต กลับมาไม่เต็มร้อย

เอส กันตพงศ์ อัปเดตชีวิตครั้งแรก ผ่านรายการ เที่ยงบันเทิงสด ครั้งแรก หลังผ่านมรสุมจากอาการป่วยโคม่า เผย ความทรงจำในอดีตกลับมาแค่ 20 %

ที่แท้! วงจรปิดจับภาพ ลูกน้อง ‘บิ๊กโจ๊ก’ ปลดป้าย-ขนของออกจากสำนักงาน

นึกว่าใครทำ! ลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” เองที่ปลดป้าย พร้อมกับขนของ ออกจากสำนักงาน หลังถูกนายกรัฐมนตรี เซ็นออกจากราชการ พ้นตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า