ยกฟ้องคดีฉ้อโกง “บอลนี่ เมธา” เจ้าของร้าน ดารุมะซูชิ ร้านอาหารญี่ปุ่นหลอกขาย Voucher-แฟรนไชส์ ชี้ บริหารผิดพลาด ไม่เข้าข่ายเจตนาทุจริต
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลอาญา นัดอ่านคำพิพากษา คดีฉ้อโกงประชาชน ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท ดารุมะ ซูชิ จำกัด และ นายเมธา หรือ บอลนี่ ชลิงสุข อายุ 41 ปี เจ้าของร้าน กรรมการผู้มีอำนาจร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกัน ฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฟอกเงิน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ
ล่าสุด ศาลได้พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว วินิจฉัยว่า ดารุมะ ซูชิ และ บอนนี่ ได้เปิดร้านอาหารมาตั้งแต่ปี 2559 และมีผู้บริโภคสนใจจำนวนมากทำให้สามารถขยายกิจการได้อีกหลายสาขา และมีการขายคูปองทำโปรโมชั่น ผู้ที่ใช้บริการก็ยังนำคูปองมาใช้บริการได้ตามปกติ จนกระทั่งเกิดการบริหารงานและการคาดการณ์ที่ผิดพลาด ประกอบกับเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาปลาแซลม่อนซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก ราคาสูงขึ้น จนทำให้ขาดสภาพคล่องไม่สามารถชำระค่าปลาแซลม่อน เลยบริหารกิจการต่อไปไม่ได้
โดยหากย้อนไปเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 65 ได้มีกระแสดรามาที่ลูกค้าออกมาเรียกร้องอย่างแพร่หลายว่า ร้านบุฟเฟต์เจ้าดัง ดารุมะซูชิ จู่ๆปิดร้านเงียบหายหลายวัน และปิดทุกสาขา หลังจากที่ทางร้านได้ทำการเปิดขาย Voucher หรือ คูปอง ในราคา 199 บาทนอกจากผู้เสียหายที่ซื้อ Voucher แล้ว ยังมีลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์ของ ดารุมะซูชิ และพนักงานที่ถูกปิดร้านโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้กลายเป็นคนว่างงานกระทันหัน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ซึ่งโจทก์ (ผู้เสียหาย) นั้นขอยื่นฟ้องให้เป็นความผิด 988 กรรม นอกจากนี้ยังหลอกลวงประกาศขายแฟรนไชส์ ให้ผู้สนใจร่วมลงทุนราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาท ถึง 2.5 ล้านบาทต่อสาขาโดยมีผู้เสียหาย 11รายหลงเชื่อชื้อแฟรนไชส์ จากจำเลยเป็นความผิด 11 กรรม และคำฟ้องระบุอีกว่าจำเลยยังร่วมกันฟอกเงินโดยรับโอนเงินที่ได้จากการกระทำผิดจำนวน 150.7ล้านบาทเศษ เข้าบัญชีธนาคารตนเองเพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริง
โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด และร่วมกันคืนเงินหรือชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายแต่ละรายตามความเสียหายรวม 42.3 ล้านบาทเศษด้วย จากนั้นเรื่องนี้ก็กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินตามตัวและจับกุม บอลนี่ เมธา เจ้าของร้านดารุมะซูชิ จนกระทั่งความคืบหน้าล่าสุดที่ได้รายงานไปในเบื้องต้นนั้นเอง
