อุทาหรณ์ สาวไปคลอดลูกที่โรงพยาบาล ผ่านไป 15 วัน ได้กลิ่นน้ำคาวปลา มีกลิ่นเหม็นมาก แต่ไม่ได้เอะใจ จนผ่านไป 2 เดือนเจอ ผ้าก๊อซที่หมอลืมทิ้งไว้ หลุดมาจากช่องคลอด !
วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์และข้อควาวม เป็นอุทานหรณ์เตือนใจสำหรับคุณแม่ ๆ ที่คลอดลูกแบบธรรมชาติ โดยตัวเธอนั้น ได้ไปคลิดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ด้วยวิธีธรรมชาติ แต่เลือดไหลไม่หยุด หมอเลยเอาผ้าก๊อซอุดไว้เพื่อหยุดเลือด
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้กลิ่นเหมือนน้ำคาวปลา ส่งกลิ่นเหม็นออกมา เธอจึงไปตรวจ แต่ไม่ได้ตรวจภายใน เธอเลยไม่ได้เอะใจอะไรต่อ หลังจากนั้นผ่านไป 2 เดือน เธอกับรู้สึกเหมือนมีอะไรกำลังจะหลุดออกมาจากช่องคลอง ก็เลยใช้มือพยายามดึงออก ผลสรุปคือเป็นผ้าก๊อซที่หมอเอาออกไม่หมดตั้งแต่เธอคลอดลูกครั้งนั้น ยังโชคดีที่ไม่มีอาการติดเชื้อ
“ขออนุญาตแอดมินนะคะ
ฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ
ปล.ผิดกฎลบได้นะคะ
วันที่ 17 มีนาคม 2564 แม่ได้คลอดน้องออกมาที่โรงบาลคูเ**ง คลอดธรรมชาติวันที่คลอดน้องแม่มีเลือดไหลไม่หยุดหมอเลยหยัดก้อนสำลีหรือผ้าก๊อตเพื่อหยุดเลือด แต่หมอเอาออกแล้ว แม่ไม่คิดว่าหมอจะเอาออกไม่หมด หลังออกจากโรงพยาบาลได้ 15 วัน น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นมาก
29 เมษายน 2564 หมอนัดตรวจหลังคลอดที่อนามัยใกล้บ้านแต่หมอไม่ได้ตรวจภายในให้หมอถามแค่อาการเบื้องต้น ก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะหมอบอกไม่มีอาการปวดท้องหรือเป็นไข้ก็ไม่เป็นไร
พอคลอดน้องได้ 2 เดือน 8 วัน เหมือนมีอะไรจะหลุดออกจากช่องคลอดแม่ก็เลยดึงออก สรุปเป็นผ้าก๊อตก้อนไหญ่ไม่เข้าใจชีวิตคนทั้งคนทำไมถึงทำงานสะเพร่าแบบนี้ ดีที่ยังหลุดออกไม่มีอาการติดเชื้อผ้า ก๊อตก้อนไหญ่และเหม็นมากในระยะเวลา 2 เดือน ไม่มีอาการปวดท้องและเป็นไข้แบบนี้ถ้าติดเชื้อตายมาใครจะรับผิดชอบคะ
#แบบนี้สามารถฟ้องเอาผิดได้ไหมคะ
#ขออภัยในรูปไม่สุภาพคะ ผิดกฎลบได้นะคะ”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนางทิพยวรรณ ไชยศล หัวหน้ากลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลคูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำกระเช้ามามอบให้เป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมระบุว่า กรณีมีผ้าก๊อซในช่องคลอด ถือว่าเป็นความผิดพลาดในระบบการทำงาน
เบื้องต้นสามารถได้รับการเยียวยาตามมาตรา 41 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการทางสาธารณสุขได้ แต่จะต้องผ่านกระบวนการคณะกรรมการก่อน ทั้งนี้ต้องขอโทษ น.ส.สิริวิมล ที่ทำให้เดือดร้อน และสร้างความกังวลใจให้กับครอบครัว ซึ่งทางโรงพยาบาลจะปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดกรณีนี้ขึ้นอีก