หากใครที่ติดตามข่าวสารวงการกีฬาอยู่เป็นประจำคงจะพอทราบดีว่า นักกีฬาที่เดินทางไปแข่งขันในรายการต่างๆที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย มักจะมีเรื่องเงินอัดฉีดเข้ามาช่วยส่งเสริมเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬา และสามารถนำไปใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพ เตรียมพร้อมในการลงแข่งขันต่อไป ซึ่งเงินเหล่านี้นับว่ามีความสำคัญต่อนักกีฬาเป็นอย่างมาก
แต่ล่าสุด กลับมีเรื่องดราม่าเรื่อง เงินอัดฉีดนักกีฬาเจ็ทสกี เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า “อะไรคือกฏเกณฑ์ ก่อนไปแข่ง กับหลังแข่งเสร็จ ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่น่า เงินรางวัลอัดฉีดที่พวกผมควรจะได้มันเป็นแค่เศษเสี้ยวที่พวกผมจ่ายกันไปเองรู้ๆกันอยู่ แล้วกีฬาชนิดนี้พวกผมออกค่าใช้จ่ายเองเกือบทั้งหมด ปีนี้เฉพาะที่จ่ายไป 2 สนาม ที่เมกากับโปแลนด์ ค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน (เฉพาะทีมผม) ที่จ่ายกันเอง ไหนจะเรือแข่ง ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเช่าบ้านค่า โรงแรม ค่ากิน ค่าเช่ารถ แล้วกับเงินรางวัลอัดฉีด สำหรับแชมป์โลกได้เพียง 250000 บาท ที่ผ่านมา 10 กว่าปี พวกเราก็เคยได้กันแบบนี้ทุกปี มาปีนี้บอกกีฬาชนิดนี้ไม่อยู่ในเกณฑ์ แต่ทำไมตอนพวกเรากลับมาถึงสนามบินออกข่าวใหญ่โต พวกเราสร้างชื่อเสียงเป็นประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยทำได้ถึง 14 แชมป์โลก ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกในวงการเจ็ทสกี แต่ถูกกับเมินไม่อนุมัติเงินรางวัลอัดฉีด ทั้งๆที่ผ่านมา 15 ปี ก็ได้มาตลอด พวกเรารู้สึกผิดหวังกับผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและกับกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติมากๆที่เกิดเหตุการแบบนี้ พวกเรานักกีฬาทีมชาติและทีมช่างรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจแบบนี้ของผู้ใหญ่ พวกเราได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติมากมายแต่สิ่งที่ได้ตอบแทนคืออะไร?”
- โอลีฟ แจงแล้ว ปมตั้งคำถามผู้เข้าประกวดเวทีดัง ลั่น ไม่เคยคิดบลูลี่ใคร
- อุ๊ยแรง! โป๊ป ธนวรรธน์ โดนสาวแคปแชท ทักDMหา ลั่นแซ่บ ความสวยเป็นเหตุ
- สาวฮอตแห่งปี! เบลล่า ราณี ติดอันดับคนดังที่อย่างมอบดอกไม้ให้มากที่สุด
ทั้งนี้ เมื่อสืบข้อมูลย้อนไปพบว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่งโพสต์ถึงประเด็นดราม่านี้เช่นเดียวกัน โดยรายนี้โพสต์ระบายว่า “กฎเกณฑ์ใหม่ในการรับรางวัลเงินอัดฉีดจาก กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติทำให้ 14 เหรียญทอง new record และเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการจัดการแข่งขันjetskiชิงแชมป์โลกที่สหรัฐอเมริกาที่มีชาติอื่นสามารถขึ้นมาเป็นที่หนึ่งแทนสหรัฐอเมริกาแต่กฎใหม่จะทำให้มีผู้ผ่านเกณฑ์แค่3คน ถ้ายังยึดกฎเกณฑ์อันนี้จะทำให้อนาคตกีฬาJetskiทีมชาติไทยถดถอยอย่างมากแน่นอนและไม่พัฒนาแบบชื่อกองทุนหรือสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาและสนับสนุนของกองทุนเองการสนับสนุนสวนทางกับผลงาน 1 Event แปลว่า งานหรือการแข่งขันทั้งหมดแต่กองทุนบอกแปลว่ารุ่น สู้กันไปก่อนเพื่อเปลี่ยนกฎเกณฑ์ถ้าถึงสุดท้ายปีนี้ไม่ได้ก็ถือว่าสู้ให้รุ่นน้องๆในอนาคต”
งานนี้ “เปิ้ล นาคร” ในฐานะ นักกีฬาเจ็ทสกี และสนับสนุนให้ น้องออก้า เป็นนักเจ็ทสกีจนสามารถคว้าแชมป์ระดับโลกได้ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวว่า “แปลว่าออก้าด.ช.นครา ศิลาชัยที่ไปได้แช้มป์โลกมา สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมา เงินสนับสนุนสักบาทจากสมาคมและการกีฬาก็ไม่ได้แล้ว (ไม่เป็นไรเข้าใจในกติกา) และเงินอัดฉีดที่นักกีฬาไทยทั้ง 14 คนทำไว้ให้กับประเทศชาติควรได้รับการพิจารณากลับไม่ได้กันสักบาท น่าเอ็นดูกันจังนะครับผู้ใหญ่ทั้งหลาย(นัดมาเคลียร์กันใหม่ได้นะครับผู้ใหญ่ เพื่ออนาคตของนักกีฬาในอนาคตที่ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติในรุ่นต่อๆไป)” ทั้งนี้ก็ต้องรอดูต่อไปว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการออกมาชี้แจงอย่างไร และมีการเปลี่ยนกฎเพื่อให้เกิดความสอดคล้องหรือไม่
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY