ยังน่าเป็นห่วง! สถานการณ์ ‘น้ำท่วมภาคใต้’ 10 จังหวัดได้รับผลกระทบ เผย เสียชีวิต 31 ราย 6 แสนครัวเรือน เดือดร้อนหนัก
ในช่วงปลายตั้งแต่เดือน พ.ย. ถึง ต้นเดือน ธ.ค. ภาคใต้ของประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากฝนตกต่อเนื่องและน้ำเอ่อล้นตลิ่ง โดยมีสาเหตุหลักจากหย่อมความกดอากาศต่ำและปรากฏการณ์ “เอลนีโญ” ทำให้เกิดฝนตกหนักมากในรอบหลายสิบปี

ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM เผยมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา และปัตตานี รวม 11 อำเภอ 58 ตำบล 421 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,992 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 31 ราย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ยังคงสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่เร่งช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 67 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวม 87 อำเภอ 538 ตำบล 3,729 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 664,173 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 31 ราย ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่
- นครศรีธรรมราช เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ชะอวด อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองฯ อ.ปากพนัง อ.หัวไทร และอ.เชียรใหญ่ รวม 39 ตำบล 332 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,621 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ปัจจุบันคลองท่าดีมีระดับน้ำลดลง
- สงขลา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ และอ.สทิงพระ รวม 14 ตำบล 83 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,111 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 10 ราย ปัจจุบันลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาระดับน้ำลดลง
- ปัตตานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองจิก และอ.เมืองฯ รวม 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,260 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ปัจจุบันแม่น้ำปัตตานีระดับน้ำลดลง
