น้ำท่วมหนัก! 4 จังหวัดภาคใต้ ปภ. เผย ดับแล้ว 32 ราย เร่งกระจายกำลังช่วยเหลือ ปชช. แจกถุงยังชีพ 43,595 ครัวเรือน
วันที่ 15 ธ.ค. 2567 เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM รายงานสถานการณ์อุทกภัยใน 4 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ครอบคลุม 27 อำเภอ 137 ตำบล 814 หมู่บ้าน ส่งผลกระทบต่อประชาชน 43,595 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดย ปภ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้เกิดจากความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ส่งผลให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ระหว่างวันที่ 22 พ.ย. – 15 ธ.ค. 67 เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 98 อำเภอ 625 ตำบล 4,264 หมู่บ้าน กระทบประชาชน 675,160 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตรวม 32 ราย
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 จังหวัด ดังนี้
- ชุมพร: เกิดน้ำท่วมใน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ปะทิว อ.เมืองฯ อ.สวี อ.ทุ่งตะโก อ.หลังสวน และ อ.ละแม รวม 47 ตำบล 379 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,701 ครัวเรือน ขณะนี้ระดับน้ำในคลองหลังสวนลดลงแล้ว
- ระนอง: เกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.กระบุรี อ.ละอุ่น และ อ.เมืองฯ รวม 12 ตำบล 42 หมู่บ้าน กระทบ 1,070 ครัวเรือน ระดับน้ำในคลองญวนลดลงแล้ว
- สุราษฎร์ธานี: เกิดน้ำท่วมใน 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าชนะ อ.ท่าฉาง อ.เมืองฯ อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.เกาะพงัน และ อ.เกาะสมุย รวม 27 ตำบล 104 หมู่บ้าน กระทบ 2,216 ครัวเรือน ระดับน้ำในแม่น้ำตาปีเพิ่มสูงขึ้น
- นครศรีธรรมราช: เกิดน้ำท่วมใน 11 อำเภอ ได้แก่ อ.ชะอวด อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองฯ อ.ปากพนัง อ.เชียรใหญ่ อ.พระพรหม อ.สิชล อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา อ.ขนอม และ อ.ช้างกลาง รวม 51 ตำบล 289 หมู่บ้าน กระทบ 32,608 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ระดับน้ำในคลองท่าดีลดลงแล้ว
มาตรการช่วยเหลือประชาชน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัย เช่น เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรเทาอุทกภัย เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ และเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังมีทีม ปภ.ส่วนหน้าคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความเสียหายและดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
