มูลนิธิสุทธิธรรม แจงดราม่า ค่ายจิตอาสา ไม่ใช่กิจกรรมลัทธิประหลาด!

อาจารย์ชัชวาล เจ้าของมูลนิธิสุทธิธรรม จ.มุกดาหาร เปิดใจ หลังดราม่า ค่ายจิตอาสา หลอกพารุ่นน้องทำกิจกรรม ยืนยัน ไม่ใช่ลัทธิประหลาด

รณีรุ่นพี่ที่มหาลัยแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ได้มีการมีการหลอกรุ่นน้องนักศึกษาว่าจะไปทำค่ายจิตอาสาที่มุกดาหาร โดยมีการทำภาพโปสเตอร์รายละเอียดกิจกรรมไว้ว่า มีชมวิว กิจกรรมฐานสนุก และพบปะเพื่อน ๆ ต่างสถาบัน 10 สถาบัน ซึ่งดูน่าเชื่อถือ และมีการเก็บเงินคนละ 500 บาท แต่ต้องช็อกเมื่อไปถึงจริงกลับบังคับให้กราบ พระถังซัมจั๋ง ที่ศาลเจ้าจีน พร้อมให้ทำพิธีให้พ้นขุมนรก เข้าลัทธิแปลกประหลาดร่วมกับโรงเรียนอื่น ๆ แทน ซึ่งไม่ตรงกับที่แจ้งเอาไว้ และมีรุ่นน้องบางคนออกมาแฉพฤติกรรมนี้เล่าว่าทำกันมาหลายปีแล้วนั้น ต่อมาทีมงานผู้จัดค่ายได้ออกมาปฏิเสธการบังคับเข้ากิจกรรม และไม่มีลัทธิแปลก ให้ไหว้พระเช้า-เย็นปกตินั้น

ล่าสุดวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เพจเฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน ได้โพสต์ข้อความว่า “ตำรวจไปตรวจสอบพบว่าเป็นมูลนิธิดังกล่าว อยู่หมู่ที่ 5 ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร มีการใช้สถานที่ จดทะเบียนเป็นที่ตั้งบริษัท แต่ปิดไม่มีคนอยู่ ส่วน ภาพคลิปเป็นนักเรียน นักศึกษา มาเข้าค่าย เมื่อตรวจสอบทราบจากนักศึกษา สถาบันหนึ่ง บอกว่า เมื่อวันที่ 12-14 ก.ค. เราและเพื่อนร่วมมหาลัยหลายคน ได้ไปเข้าค่ายที่มีชื่อว่า เติมพลังนักจิตอาสา ซึ่งจัดขึ้นที่ มูลนิธิสุทธิธรรม ไท่หลิน ฝอเอวี้ยน อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร

ภายในค่ายไม่ได้มีกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับการทำจิตอาสาเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นการเผยแพร่ลัทธิและนิกายที่ไม่รู้จัก มีการบังคับให้กินเจ บังคับสวดบูชาอะไรก็ไม่รู้ และไม่มีการบอกรายละเอียดกิจกรรมในค่ายก่อนเข้าร่วมแต่อย่างใด มีนักศึกษาและนักเรียนมัธยมจำนวนมากที่เข้าร่วมโดยที่ไม่ทราบว่าจะมีการกระทำแบบนี้ ภายในค่ายมีการห้ามถ่ายคลิป ห้ามอัดเสียง ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกเพราะค่ายปกติคงไม่ห้ามอะไรแบบนี้”

ต่อมาในวันเดียวกัน 16 กรกฎาคม 2567 ทางด้านพุทธสถานสถาน อาจารย์ชัชวาล อายุ 69 ปี ได้ออกมาชี้แจง ว่าบริเวณแห่งนี้เป็นที่ดินของตนเอง โดยสถานที่ปฏิบัติมีการสร้างร่วมกับผู้มีจิตกุศล เพื่อสอนตามหลักธรรมคำสอนในแนวของพระพุทธเจ้า ก็คือสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ส่วนวิธีก็จะแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่ทุกคน ต้องกินเจเป็นหลัก

ส่วนเรื่องที่มีการโพสต์เกี่ยวกับการสอนแบบประหลาดนั้น ทางตนไม่รู้เรื่อง เพราะเขามาเช่าสถานที่ในการจัดค่าย ซึ่งการสอนก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละค่าย ส่วนเรื่องการทำพาสปอร์ตสวรรค์นั้น ไม่มีการจัดทำแน่นอน มีเพียงแค่สมุดเล่มสีเหลือง เพื่อให้คนที่จะเข้ามาปฏิบัติธรรมได้ลงชื่อเท่านั้น อาจจะเป็นการเข้าใจผิด เพราะคนที่จะไปสวรรค์ได้ ตามหลักของศาสนาพุทธนิกายมหายาน คือต้องทำดี ปฏิบัติดี ข่าวที่ออกไปน่าจะเป็นการสื่อสารของคนที่พามาเข้าค่าย ทำให้เข้าใจแบบผิด ๆ