ส่องเลย สเปคเครื่องบิน Gripen E/F ที่ทาง กองทัพอากาศ แถลงจัดซื้อทดแทน เครื่องบินรบ F-16 เสริมความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงเหนือน่านฟ้าไทย
ข่าวประเด็นร้อน วันที่ 4 มิถุนายน 2568 กองทัพอากาศจัดแถลงข่าวความพร้อมในการจัดหา เครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ Gripen-E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 19,500 ล้านบาท โดย พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ของการแถลงข่าวครั้งนี้ เพื่อต้องการสื่อสารความคืบหน้าและหลักการดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ รวมทั้งเพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะ เน้นความโปร่งใส ความคุ้มค่า การแข่งขันอย่างเป็นธรรม และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่คำนึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ พร้อมยืนยันถึงความมุ่งมั่นของกองทัพอากาศและสวีเดนในความร่วมมือระยะยาว “โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงการจัดหาเครื่องบิน แต่คือการลงทุนในความมั่นคงของประเทศและความสามารถในการป้องกันอธิปไตยทางอากาศในระยะยาว เครื่องบิน Gripen E/F มีสมรรถนะล้ำสมัย ระบบเรดาร์ AESA ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และจรวด BVR แบบ Meteor ซึ่งเป็นระบบที่ตอบโจทย์การรบในอนาคต” งานนี้ เราจะพาท่านไปรับชม สเปคเครื่องบิน Gripen E/F มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

เปิด สเปคเครื่องบิน Gripen E/F
สำหรับ สเปคเครื่องบินขับไล่โจมตี แบบGripen-E/F มีรายละเอียด ดังนี้
-จำนวนที่ผลิต (รวมทุกรุ่น) : 300 ลำ
-มีขนาด ยาว x สูง x กว้างถึงปลายปีก : 15.2-15.9 ม. x 4.5 ม. x 8.6 ม.
-มีน้ำหนักตัวเปล่า : 8,000 กก.
-น้ำหนักบินขึ้นสูงสุด : 16,500 กก.
-ทำความเร็วสูงสุด : มัค 2
-พิสัยปฏิบัติการ : 800 กม.
-เครื่องยนต์ : General Electric F414-GE-39E
-เรดาร์ : PS-05/A Raven
-อาวุธอากาศสู่อากาศ : AIM-9 Sidewinder , AIM-120 AMRAAM , IRIS-T และ Meteor
-อาวุธอากาศสู่พื้น : GBU-39 SDB , GBU-10/12 Paveway II , GBU-24/27 Paveway III , Taurus KEPD 350 และ RBS-15F
ข่าวที่น่าสนใจ
- รัฐบาล แจง ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยัน สถานการณ์มีความสงบเรียบร้อย
- เต้-มงคลกิตติ์ ฟิตร่างก่ายพร้อมออกรบ ปกป้องชายแดนไทย-เขมร
- เปิด ภาพฮุนเซนที่ศาลาตรีมุข อ้างพื้นที่เขมร สวนทาง ทหารไทยเป็นคนสร้าง
สำหรับ เหตุผลหลักของการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีรุ่นใหม่ คือเพื่อทดแทน F-16 ที่ประจำการมากว่า 37 ปี ซึ่งจะทยอยปลดประจำการในช่วงปี 2571–2578 หากไม่ดำเนินการ จะกระทบต่อความพร้อมในการป้องกันประเทศ กองทัพอากาศได้ดำเนินการตามกระบวนการที่เข้มงวด โปร่งใส และรอบคอบ โดยมีการตั้งคณะกรรมการจากหลายฝ่าย เพื่อพิจารณาความเหมาะสมทั้งด้านขีดความสามารถ ความคุ้มค่า และราคาประกอบกัน ซึ่งผลการพิจารณาสรุปว่า เครื่องบิน Gripen E/F เป็นแบบที่ตรงตามความต้องการของกองทัพอากาศมากที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีการชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ (Defence Offset) รวมมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท หรือ 154.6% ของมูลค่าโครงการ เช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี Tactical Data Link (Link-T), การพัฒนาบุคลากรและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศ รวมถึงความร่วมมือด้านการศึกษาและวิจัยกับสวีเดน
“กองทัพอากาศขอยืนยันว่า ภาษีพี่น้องประชาชนจะถูกใช้อย่างคุ้มค่า โปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคงของชาติ” โฆษกกองทัพอากาศกล่าว
ทั้งนี้ กองทัพอากาศมีแผนจะลงนามในสัญญาร่วมกับรัฐบาลสวีเดนภายในเดือนสิงหาคม 2568 และจะมีการฝึกอบรมบุคลากรทั้งนักบินและช่างเทคนิคควบคู่กันไป เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ทันที เมื่อเครื่องบิน Gripen E/F เข้าประจำการ