สรุปดราม่า #ฝึกงานแบไต๋ - ‘หนุ่ย พงศ์สุข’ ขอโทษ พร้อมยอมรับความต่าง

ม้วนเดียวจบ! สรุปดราม่า #ฝึกงานแบไต๋ สองนศ.ไร้ปฏิสัมพันธ์กับที่ทำงาน ด้าน ‘หนุ่ย พงศ์สุข’ ขอโทษ พร้อมรับความต่างระหว่างGEN

กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงกันในโลกออนไลน์ กับกรณีของนักศึกษาศึกงานจากทาง แบไต๋ เว็บไซต์และบทความรีวิว และเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสไตล์สำหรับการใช้ชีวิตในยุคใหม่ โดยกลายเป็นประเด็นเมื่อคุณหนุ่ย พงศ์สุข พิธีกรชื่อดังด้านไอที โพสต์เรื่องราวของนักศึกษาสองคน ที่เผยว่าเป็นนักศึกษาที่บันทอนใจ เป็นเหตุให้ประกาศหยุดรับนักศึกษาฝึกงาน ก่อนจะเกิดกระแสตีกลับจากโซเชียล ทำให้ต้องออกมาโพสต์ขอโทษ พร้อมรับความเห็นต่างระหว่าง GEN

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมาทางด้านคุณหนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรชื่อดังด้านไอที โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงพฤติกรรมของนักศึกษาฝึกงานในบริษัท พร้อมทั้งติด #ฝึกงานแบไต๋ ในประเด็นที่ไม่มีพูดคุยกับคนที่ทำงาน ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับใคร มุ่งหน้าทำงานของตัวเองอย่างเดียว และทำออกมาได้ดีเสียด้วย ทางทีมพยายามที่จะเข้าช่วยเหลือ พูดคุย แต่ดูเหมือนไม่เป็นผล

ทั้งนี้ได้พูดคุยกับทางอาจาร์ย ซึ่งทราบว่าเป็นบุคลิกเฉพาะตัว ที่มหาลัยก็ฮฮา ยกมือตอบคำถาม และลับหลังก็โพสต์ข้อความด่าครู

ทางแบไต่ ไม่ได้ตัดสินใจยุติการศึกงานของน้อง เพราะไม่ได้มีอะไรเลยหาย อีกทั้งยังทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ดี แต่มารยาททางสังคมคือสอบตก ด้านอาจาร์ยวอนแบไต๋ อย่าแบล็คลิสสถาบัน ขอให้รับนักศึกษาฝึกงานในรุ่นต่อๆไป

กลางวันหนึ่ง สองนักศึกษาเดินทางคุณหนุ่ยที่กำลังทางอาหารกลางวัน หนึ่งในสองพยายามเพ่งสายตามอง ก่อนหลบตา และตัดสินใจเงยหน้าทักทาย ส่วนอีกคนไม่มองไม่สนใจเหมือนที่เคยทำมาตลอดสามเดือน

“น้องสาวๆ มาคุยกันก่อน มาด้วยกันทั้งคู่ มาดีแล้วล่ะ อยากทักก็ทัก ไม่ต้องลังเล
“ไม่มั่นใจว่าเป็นพี่ ก็เลยต้องมองก่อน”
“เห็นพี่หนุ่ยอยู่ท่ามกลาง พี่ตุ๊ก พี่แตน พี่ป๊อป … นี่ใช่พี่หนุ่ยแน่ๆ”
“แต่ผมมองเห็นไม่ชัดนี่”
งั้นไปเถอะ ครับ ไม่เป็นไร”
ทั้งหมดคือบทสนทนาใน 30 วินาทีที่ผมดูออกเลยว่า มันคือการ
“เอาตัวรอดในสถานการณ์ขับขัน. …ที่แย่มาก”

ผมเคยยึดถือหลักการ “สอนซะก่อนสาย” คือจะไม่ปล่อยใครให้ ออกไปเฟอะฟะในสังคม ยอมเหนื่อยพูด ยอมเหนื่อยบอก เขาต้องรู้ตัว จะได้ปรับปรุงตัว แต่คนสมัยนี้ หัวร้อนขึ้นมาก 2-3 วันนี้มีเหตุการณ์มากระทบความรู้สึก “ที่ต้องอดกลั้น” ของผมหลายเคส จนพอเข้าใจแล้วว่า”สอนไปก็ไม่ช่วย เพราะเขามองเจตนาเราไม่ออกหรอก”ผมเลิกเป็นไม้บรรทัด แล้วขอเฝ้ามองคนรุ่นต่อไปด้วยความตื่นตาตื่นใจต่อไป…

ทั้งนี้ทางโลกออนไลน์เกิดกระแสตีกลับจากประเด็นที่คุณหนุ่ยได้โพสต์ไป ทั้งระบุว่า เป็นสิ่งที่ไม่สมควรที่เอาเรื่องของนักศึกษาทั้งสองมาโพสต์ แม้จะไม่ชื่อก็ตาม บางก็ระบุอาจาร์ย เพราะสิ่งที่พูดไม่ได้ช่วยแก้ไข้เรื่องราวได้ บางก็ถามถึงระบบขององค์ว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร หรือยังให้การเข้าหาเป็นเรื่องจัดลำดับอาวุโสอยู่

แต่ก็มีบางความคิดเห็นที่เผยว่าตนก็เจอน้องๆนึกศึกษาฝึกงานที่เป็นแบบนี้ ไม่พูดไม่คุย พร้อมคิดเห็นว่า บรรกาศในการทำงานก็เป็นเรื่องสำคัญ การปฏิสัมพันธ์ พูดคุยกับทีมก็คือว่าเป็นการช่วยให้งานนั้นเดินไปข้างหน้าได้เร็วและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา คุณหนุ่ยเคลื่อนไหวอีกครั้ง ผ่านทางเฟซบุ๊ก พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พร้อมโพสต์ขอโทษนักศึกษาฝึกงานทั้งสอง ยอมรับความผิดจากการกระทำของตน และรับฟังความคิดเห็นต่างจากวัยที่ต่างกัน “แม้ “คุณค่าที่ยึดถือ” เป็นคนละแบบ แต่การแสดงออกของผมก็ผิด ผิดที่เอาเรื่องนี้มาเล่า ผิดที่เอาน้องไปแขวน แม้ไม่มีการระบุชื่อเสียงเรียงนาม แต่ผมก็ผิดอย่างมากที่ทำการสื่อสารเรื่องราวนี้อย่างไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง

ตลอดสองคืนนี้ ผมได้อ่านความคิดเห็นของผู้คนมากมาย ทั้ง Gen Y, Z และย้อนกลับมาที่ Gen X ช่วงวัยผมด้วย ผมยอมรับความจริง ยอมรับความต่าง แล้วตกผลึกความคิดกับการเปลี่ยนผ่าน คนแต่ละเจน ฯ โตมาในโลกที่มีโฉมหน้าต่างกัน เราจึงยอมรับในเนื้อหาและบริบทที่ต่างกันออกไป แล้วก็เป็นสิทธิที่ทุกคนจะคิดหรือปฏิบัติอย่างไรต่อกันก็ได้หากยังอยู่ภายใต้กฎหมาย

ในนามบริษัท เราได้ขอพบน้องทั้งคู่เมื่อวาน และกล่าวคำขอโทษตรงหน้ากับการกระทำนี้ของผม ผมเขียนบันทึกภายในส่งในไลน์กลุ่มองค์กรที่มีพนักงานทุกคนอยู่พร้อมเพื่อแสดงความขอโทษ และความผิดพลาดแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่ว่ากับใครหรือกับบุคคลสถานะไหน

ส่วนตัวผม ผมได้รับการแขวนบนสังคมทวิตเตอร์ ซึ่งก็ดูเป็นโทษที่เหมาะสมกับความผิดของการกระทำนี้ ผมได้ของแถมที่ดี คือการรับรู้และเข้าใจในความคิดของคนรุ่นใหม่ เพื่อปรับตัวอยู่ต่อในสังคมไทยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป