สื่อต่างประเทศรายงาน ญี่ปุ่น พิพากษาประหารชีวิตผู้ต้องหาวัย 19 ปี ข้อหาฆ่าวางเพลิงพ่อแม่สาวที่ชอบ ถือเป็นเคสแรก หลังแก้กฎหมายเยาวชน
สื่อต่างประเทศอย่าง kyodonews ได้รายงานข่าวการตัดสินความผิดของ ผู้ต้องหาเยาวชน โดยการประหารชีวิตเป็นครั้งแรก หลังจากที่ญี่ปุ่นได้ปรับแก้กฎหมายเยาวชน ซึ่งมีรายงาน ดังนี้ ศาลญี่ปุ่นตัดสินประหารชีวิตชายวัย 21 ปีรายหนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี ฐานฆาตกรรมสองคนและวางเพลิงในปี 2564 โดยเป็นคดีแรกที่มีโทษประหารชีวิต แก่ผู้กระทำผิดที่เป็นผู้เยาว์ในขณะที่ก่ออาชญากรรม ภายใต้การแก้ไขกฎหมายเยาวชนปี 2022
จำเลยมีนามว่า ยูกิ เอนโดะ (Yuki Endo) ในตอนก่อเหตุ เอ็นโดะ มีอายุ 19 ปี หลังจากที่เกิดการโจมตีใน เมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ทางตอนกลางของญี่ปุ่น การเปลี่ยนแปลงกฎหมายในเดือนเมษายน 2022 ทำให้สื่อสามารถเปิดเผยตัวตนของผู้กระทำผิดอายุ 18 และ 19 ปีได้เมื่อถูกดำเนินคดี
ก่อนหน้านี้สื่อถูกห้ามไม่ให้รายงานชื่อ อายุ อาชีพ ที่พักอาศัย และรูปลักษณ์ภายนอก หรือเผยแพร่ภาพถ่ายของผู้เยาว์ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
ในการตัดสินที่ ศาลแขวงโคฟุ ผู้พิพากษาหัวหน้า จุน มิคามิ ยอมรับความรับผิดทางอาญาเต็มจำนวนของเอนโด และกล่าวว่าอายุของเขา “ไม่ควรเป็นเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงโทษประหารชีวิต” เอนโดะแทงพ่อวัย 55 ปี และแม่วัย 50 ปีของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บ้านที่โคฟุ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2564 ส่งผลให้มีเลือดออกจนเสียชีวิตตามคำตัดสิน นอกจากนี้ เขายังทำร้ายน้องสาวของคนรู้จักและจุดไฟเผาบ้าน คำตัดสินระบุ คนรู้จักไม่ได้รับบาดเจ็บ
ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาของญี่ปุ่น การลอบวางเพลิงบ้านซึ่งมีบุคคลอยู่นั้นอาจถูกลงโทษประหารชีวิตได้เช่นกัน ในการพิจารณาคดี เอนโดะ กล่าวว่าเขาก่ออาชญากรรมในฐานะคนรู้จักซึ่งเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งเดียวกัน ปฏิเสธที่จะออกเดทกับเขา ซึ่งทำให้เขารู้สึก “สิ้นหวังและโกรธเคือง” เขายังบอกด้วยว่าเขาไม่พอใจกับความสัมพันธ์ของเขากับพ่อแม่
ตลอดการพิจารณาคดี เขาไม่ได้ขอโทษต่อการกระทำของเขา และปฏิเสธความตั้งใจที่จะอุทธรณ์คำตัดสิน โดยกล่าวว่าเขาไม่ต้องการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ อัยการขอให้ลงโทษประหารชีวิต โดยกล่าวว่าจำเลยต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในแง่ของความจงใจและการวางแผนก่ออาชญากรรม
พวกเขากล่าวว่าคนรู้จักและน้องสาวของเธอต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ คนรู้จักเข้าร่วมการพิจารณาคดีผ่านลิงก์วิดีโอ แต่บอกว่าเธอ “กลัวเกินไป” ที่จะพูดความรู้สึกของเธอต่อหน้า เอนโดะ ในคำให้การของเธออ่านโดยอัยการ เธอกล่าวว่า “ผู้กระทำผิดจะมาฆ่าฉันถ้าเขามีโอกาสออกไปข้างนอก ฉันอยากให้เขาไม่ได้รับอนุญาตออกไปข้างนอก และฉันต้องการหลักประกันว่าเขาจะไม่ทำ” ทีมจำเลยเรียกร้องให้มีประโยคที่เบากว่า โดยอ้างว่าจำเลยมีความสามารถลดลงในขณะที่ทำการโจมตี
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 เป็นต้นมา เมื่อศาลฎีกาได้กำหนดมาตรฐานในการให้โทษประหารชีวิต มีคดีเจ็ดคดีที่มีการสรุปโทษประหารชีวิตสำหรับผู้กระทำผิดที่ก่ออาชญากรรมในฐานะผู้เยาว์ มาตรฐานที่เรียกว่า นางายามะ ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนเหยื่อ ความโหดร้าย และผลกระทบทางสังคมของอาชญากรรม ถูกนำมาใช้มานานหลายทศวรรษในการตัดสินว่าควรใช้โทษประหารชีวิตหรือไม่
ปรับแก้กฎหมายเยาวชน
นอกเหนือจากการอนุญาตให้สื่อเปิดเผยชื่อของผู้กระทำความผิดอายุ 18 และ 19 ปีแล้ว กฎหมายเยาวชนและเยาวชนฉบับปรับปรุงที่บังคับใช้ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ยังขยายขอบเขตของอาชญากรรมที่ผู้กระทำผิดดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังอัยการจากศาลครอบครัวและดำเนินคดีในฐานะผู้ใหญ่
การแก้ไขดังกล่าวเกิดขึ้นควบคู่ไปกับญี่ปุ่นในการลดอายุของการบรรลุนิติภาวะจาก 20 ปีเหลือ 18 ปี โดยการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่ง เพื่อเปิดทางให้เสรีภาพและความรับผิดชอบใหม่ๆ แก่ผู้ที่มีอายุ 18-19 ปี
ที่มา : kyodonews
