อ่วม คลิปหลุด แม่นาง กำเงิน คลิปโป๊ อนาจาร บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.เพชรบูรณ์ เข้าแจ้งความดำเนินคดี ครอบครัวกำเงิน เป็นที่เรียบร้อย
ข่าวโซเชียล กรณี คลิปหลุด แม่นาง กำเงิน สืบเนื่องจาก เพจเฟซบุ๊ก ท่านเปา ออกมาโพสต์เรื่องราวสุดช็อกในประเทศไทย พร้อมเขียนข้อความว่า มีครอบครัวหนึ่งชื่อครอบครัว “กำเงิน” แม่อายุ 34 ปี มีลูก 9 คน คนเล็กอายุ 10 ขวบ ทั้งบ้านพี่น้องเปิดกลุ่มลับช่วยกันทำคลิปขายกัน ต่อมา พม.น่าน ลงพื้นที่แต่ก็ช่วยไม่ได้ ครอบครัวนี้ยังทำแบบเดิมอยู่ แถมยังปากแซ่บเวลามีคนไปเตือนให้หยุดพฤติกรรม รวมถึงจะไล่ฟ้องคนที่ออกมาแฉหรือต่อว่า ต่อมา ต้นอ้อนัดเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงพื้นตรวจสอบ และได้ทำการช่วยเหลือเด็ก ๆ ออกมาดูแลจากครอบครัวดังกล่าว ล่าสุด ความคืบหน้าคดีกำเงิน ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง โพสต์ระบุว่า “บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.เพชรบูรณ์ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีครอบครัวกำเงินเป็นที่เรียบร้อย”

คลิปหลุด แม่นาง กำเงิน โดน บ้านพักเด็กฯ แจ้งความ
โดย ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ระบุข้อมูลใต้โพสต์อีกว่า “ด้วยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ พบคลิปวิดีโอ ซึ่งมีลักษณะเป็นคลิปโป๊ ลามก อนาจาร และการโฆษณาเชิญชวนให้ดูคลิปวิดีโอโดยเสียค่าใช้จ่าย ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งปรากฏภาพบุคคลที่เป็นเด็กในคลิปวิดีโอดังกล่าว” จึงขอกล่าวโทษว่ามีการกระทำความผิดต่อเด็ก ดังนี้
๑. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๒๖ (๕) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน เด็กเร่ร่อน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานหรือกระทำผิด หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก มีภาพการช่วยตัวเองของเด็ก ถ่ายรูปโป๊เปลือยเด็ก เผนแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ต และได้รับเงินตอบแทน เข้าข่ายการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๕๖ มาตรา ๒๖ (๕) ถือเป็นการทารุณ ตามมาตรา ๒๖ (๑) บ่งชี้ว่าผู้ปกครองไม่สามารถคุ้มครองให้เด็กปลอดภัยจากอันตราย กาย จิตใจ โดย มาตรา ๒๘ กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และสามารถคืนตัวเด็กให้ผู้ปกครองได้ต่อเมื่อผู้ปกครองปรับการเลี้ยงดู มาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๕๖
จากหลักฐานที่เป็นวิดีโอคลิป ซึ่งเผยแพร่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่ามีการกระทำความผิด ดังต่อไปนี้
1.พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
-มาตรา ๒๖ ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการ ดังต่อไปนี้ (๕) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน เด็กเร่ร่อน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานหรือกระทำผิด หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก
2.ประมวลกฎหมายอาญา
-มาตรา ๒๗๙ ผู้ใดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-มาตรา ๓๘๘ ผู้ใดกระทําการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกํานัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทําการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
-ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๘๗
(๑) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก
(๒) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น
(๓) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด
-มาตรา ๒๘๗/๒
(๑) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก
(๒) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก
(๓) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
3.พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๖๐
-มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(๔) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
ข่าวที่น่าสนใจ
- จัดชุดใหญ่ คลิป 3 สาวสวย กับ พระปีนเสา เปิดกล้องสนทนาธรรมฉ่ำ (มีคลิป)
- จับแล้ว ผู้ต้องสงสัย ฆ่ารัดคอพยาบาลสาว หมก ห้องพักเกาะสมุย
- สรุปให้ สถิติหวย 1 มิถุนายน แนวทางล่าสุด ต้อนรับ หวยสัญจรบึงกาฬ 1/6/68
นอกจากนี้ ต้นอ้อ ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า มาตรา ๒๘๗
(๑) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก
(๒) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น
(๓) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด
มาตรา ๓๘๘ ผู้ใดกระทําการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกํานัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทําการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
2. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(๔) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
ดังนั้น ข้าพเจ้าในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงขอแจ้งความกล่าวโทษว่ามีการกระทำความผิดขั้นต้นเกิดขึ้น และขอให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานหรือดำเนินการทางคดี เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาฟ้องลงโทษ
