กัมพูชา เชื่อ หลวงตาสุจสายลับ ของ กองทัพไทย จ่อปิดตำ (ไม่) นาน พระไทยหัวใจเขมร เพราะถูก วันรุ่นขแมร์ จองกฐิน ล่าสุด ได้ข่าวแล้วหนีไปไหน
ข่าวโซเชียล วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 มีรายงานเรื่อง หลวงตาสุจสายลับ กองทัพไทย ว่อนไปทั่วโซเชียล สืบเนื่องจาก กลุ่มชาวเน็ตกัมพูชาในกลุ่ม “kun khmer” ได้นำข้อความและรูปภาพจากฝั่งไทยไปเผยแพร่ โดยก่อนหน้านี้ หลวงตาสุจ พระไทยหัวใจเขมร ย้ายไปพำนักที่ประเทศกัมพูชา โดยมีผู้นำของกัมพูชาอย่าง “ฮุน มาเนต” ยินดีต้อนรับในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนเกิดเหตุปะทะชายแดน

กัมพูชา เชื่อ หลวงตาสุจสายลับ
โดย กลุ่ม គុនខ្មែរ-Kun Khmer ได้นำข้อความและรูปภาพจากฝั่งไทยมาเผยแพร่ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า “พระรูปนี้กระทำการเพื่อพวกเสียม (ไทย) จนถึงขณะนี้ ข้อมูลนี้มาจากกลุ่มทหารไทยปลอมตัว ชาวเขมรต้องขับไล่พระเสียมคนนี้ออกจากแผ่นดินของเรา” จึงเป็นเหตุสะท้อนความเข้าใจผิดและความไม่พอใจที่เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนกัมพูชา
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 19:00 น. ของวันนี้ (30 กรกฎาคม 2568) บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “Such Naja” ซึ่งคาดว่าเป็นของหลวงตาสุจ ได้โพสต์เช็คอินที่ประเทศแคนาดา ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าหลวงตาสุจได้เดินทางออกจากประเทศกัมพูชาด้วยเหตุผลใด และสถานะของท่านในขณะนี้เป็นอย่างไร เนื่องจากประชาชนชาวกัมพูชายังคงมีความเข้าใจว่าท่านอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่ผ่านมา
ข่าวที่น่าสนใจ
- สาเหตุ หลวงตาสุจ พระไทยหัวใจเขมร ไม่ขอกลับไทย เพราะอาจต้องติดคุก
- ทบ. ชี้ ดำเนินคดี ทหารกัมพูชา ก่อนส่งคืนเขมร ตามคำร้อง ฮุน มาเนต
- เขมร ฟ้องนานาชาติ กล่าวหา ไทยลักพาตัวทหารกัมพูชา หลังตกลงหยุดยิง
สำหรับ สถานการณ์ล่าสุด กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 (ณ เวลา 10.00 น.) ปรากฏความเคลื่อนไหวของกำลังประเทศกัมพูชาและสถานการณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดดังนี้
1. ตรวจพบการเพิ่มเติมกำลังและเสริมความมั่นคงของกำลังประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
2. ตรวจพบการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรนไม่ทราบฝ่าย/ไม่ทราบชนิด) บินตรวจการณ์ที่ตั้งการวางกำลังของฝ่ายเราในหลายพื้นที่ สำหรับการตรวจพบในพื้นที่ชายแดน ได้แก่ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี, พื้นที่ภูมะเขือ, สัตตะโสม, ปราสาทโดนตรวล, ภูผี อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ, ช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และ ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
3. การดำเนินการต่อผู้ถูกควบคุมตัว ซึ่งเป็นทหารกัมพูชาที่ยอมจำนนเนื่องจากกระสุนหมดในพื้นที่ ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 20 นาย และอาวุธ/ยุทโธปกรณ์, กระสุน/วัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้