วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ความคืบหน้า กรณีการโยกย้ายอธิบดี DSI พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า เหตุที่ต้องมีการเสนอโยกย้ายในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรัตน์ ได้ถูกย้ายไปดำรงเลขาธิการ ศอ.บต. ทำให้ตำแหน่งอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนว่างลง จึงจำเป็นต้องเสนอย้าย พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว และเนื่องจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม มีความสำคัญที่จะต้องขับเคลื่อนงานนโยบายของกระทรวงในภาพรวม กำกับงานของกรมในกลุ่มภารกิจ รวมทั้งประสานงานหน่วยงานต่างกระทรวง ซึ่งพันตำรวจตรี สุริยาฯ มีประสบการณ์ผ่านงานระดับอธิบดี ที่ปรึกษาหลายหน่วยงาน เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงาน ป.ป.ส. และสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม จึงเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงที่ว่างจากการเสนอแต่งตั้งในครั้งนี้ โดยเฉพาะการยกระดับหลักนิติธรรมของประเทศ และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ส่วนข้อกังวลในการดำเนินคดีสำคัญตามนโยบายรัฐบาลในภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินคดีดังกล่าว โดยการพิจารณาดำเนินการจะยังคงเป็นไปตามพยานหลักฐาน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และปฏิบัติตามมาตรฐานการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษทุกประการ
- แจ้งข่าวประชาชน จ่ายเงินชาวนา เริ่มวันนี้ เช็กกำหนดการรับเงินได้ ที่นี่!
- หนังจีน ส่งผลกระทบ การท่องเที่ยวไทย พวงเพ็ชร เร่งหารือทำความเข้าใจ
- ขั้นตอนการลงทะเบียนแก้ไขหนี้นอกระบบ ด้วยแอปฯ ThaID เริ่ม 1 ธ.ค. 66
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวยืนยันว่า “กระทรวงยุติธรรมจะมุ่งมั่นสร้างศักยภาพและความเชี่ยวชาญของกรมสอบสวนคดีพิเศษด้านการสืบสวนสอบสวน ยกระดับในการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดของผู้ทรงอิทธิพลและการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบในทุกรูปแบบ เพื่อปกป้องคุ้มครองและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน..” ที่ พันตำรวจตรี สุริยาฯ เป็นส่วนหนึ่งในทีมบริหารของกระทรวงยุติธรรม ด้วย
“การแต่งตั้งโยกย้ายของกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถของผู้รับแต่งตั้งโยกย้าย รวมถึงเอกภาพและความรู้ความสามารถในการบังคับบัญชา โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและส่วนรวมเป็นสำคัญ ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือมีอคติใด ๆ รวมทั้งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่เป็นที่สนใจของสังคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ คดีหมูเถื่อน โดยคดีดังกล่าวจะมีการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาจนถึงที่สุด และครอบคลุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ” พ.ต.อ.ทวี กล่าว