ตำรวจเรียกเงินนักท่องเที่ยว เผยกลางรายการดัง เคสจับบุหรี่ไฟฟ้า

ตำรวจเรียกเงินนักท่องเที่ยว เคสใหม่เผยกลางรายการดัง “จับบุหรี่ไฟฟ้า” เรียกเงิน 6 หมื่น นักท่องเที่ยวต่อรองเหลือ 3 หมื่น ที่พัทยา

สืบเนื่องจากกรณี นักแสดงสาวชาวไต้หวัน ได้ออกมาโพสต์อินสตราแกรมแฉว่าถูกตำรวจไทยรีดไถเงินกว่า 2.7 หมื่นบาท ก่อนจะปล่อยตัวเธอไป จนกลายเป็นข่าวดังในไต้หวันเมื่อช่วงต้นมกราคมที่ผ่านมา ด้านตำรวจ สน.ห้วยขวาง ก็ออกมายืนยันด้วยเกียรติว่า ไม่มีใครเรียกรับเงิน แต่ยอมรับว่าในคืนเกิดเหตุมีการโต้เถียงกันบ้าง เนื่องจากภาษาที่ใช้สื่อสารกัน อีกทั้งยังอ้างว่าดาราไต้หวันคงมีดื่มมาบ้าง ทำให้สื่อสารไม่ตรงกัน

จากเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอยู่ตอนนี้ เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวและประเทศไทยเป็ฯอย่างมาก ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ได้มีการสั่งการให้เร่งทำคดีนี้อย่างละเอียดและหาผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ ซึ่งล่าสุด ผบ.ตร. ก็ได้มีการออกมาแถลงขอโทษทางดาราสาวไต้หวันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจากการกระทำของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของตน

โดยในวันนี้ (31 มกราคม 2566) รายการโหนกระแส ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาร่วมพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมหาทางออกร่วมกัน โดยมีในช่วงหนึ่งของรายการได้มีการเปิดหลักฐานใหม่จากกลุ่มผู้ที่ทำอาชีพมัคคุเทศก์ หรือ ไกด์ ที่ดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีอยู่ 2 เคสที่หลายคนให้ความสนใจ

ตำรวจเรียกเงินนักท่องเที่ยว-3 — ขอบคุณภาพ รายการโหนกระแส

เคสแรก รายการเปิดเผย ข้อความในกลุ่มไกด์ กรณีลูกทัวร์ถูกจับบุหรี่ไฟฟ้าที่พัทยา ถูกเรียกค่าปรับ 6 หมื่นบาท นักท่องเที่ยวต่อรองเหลือ 3 หมื่นบาท เหตุการณ์เกิดที่พัทยา ประมาณวันที่ 28 – 29 มกราคม 2566

เคสสอง ในระหว่างที่ดำเนินรายการ มีการส่งข้อความมาหาผู้ที่นั่งร่วมรายการด้วยว่า นักท่องที่ต่างชาติกลุ่มหนึ่ง ถูกตำรวจจับยัดยา เรียกเงินนักท่องเที่ยวมูลนับล้านบาท

ตำรวจเรียกเงินนักท่องเที่ยว-5 — ขอบคุณภาพ รายการโหนกระแส

ทั้งนี้ นายวินัย ทองสอง นายกสมาคมตำรวจ ได้มีการเสนอกลางรายการโหนกระแสว่า ตำรวจที่กระทำความผิด หรือ ทำไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาต้องจริงใจ และจริงจังในการปราบปราม หรือถ้าให้ดีก็ทำการปฏิรูปวงการตำรวจ พร้อมฝากถึงตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ก็ให้ทำต่อไปอย่าเสียกำลังใจ และต้องคอยช่วยสอดส่องดูแลพวกที่ออกนอกลู่นอกทาง