สมาคมนักข่าว โร่แถลงเรื่อง นักข่าว และช่างภาพอิสระ ถูกจับข้อหา ผู้สนับสนุนทำให้โบราณสถานเสียหายจากการขีดเขียนข้อความบนกำแพงวัดพระแก้ว
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 จากกรณี นักข่าว และช่างภาพอิสระถูกจับ ล่าสุด สมาคมนักข่าว ออกแถลงแล้วว่า ตามกรณีที่นักข่าว สำนักข่าวประชาไท และช่างภาพอิสระ ถูกตำรวจจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนทำให้โบราณสถานเสียหายจากการขีดเขียนข้อความ และถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2567 นั้น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย รับทราบและติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานกับสำนักข่าวประชาไทต้นสังกัดของนักข่าวดังกล่าว เพื่อยืนยันความชัดเจนว่า เป็นการปฏิบัติงานข่าวจริงตามที่บรรณาธิการต้นสังกัดได้รับรองให้ไปปฎิบัติหน้าที่

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องในหลายประเด็น เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนรอบด้าน และมีการประชุมหารือของกรรมการสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทราบว่านักข่าวประชาไท และช่างภาพอิสระ ถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2567
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ขอแสดงความกังวลถึงการตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมสนับสนุนการกระทำผิดในคดีอาญา” จะเป็นการบั่นทอนต่อสิทธิเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปทำหน้าที่รายงานข่าวทั้งในเหตุการณ์ที่เป็นเชิงบวกและเชิงลบต่อสังคม ทำให้โอกาสในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงได้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการยุติธรรมจะมีความชัดเจนกับสังคม และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนตามหลักจรรยาบรรณวิชาชีพและคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมหรือไม่
- ดราม่าครอบครองปรปักษ์ ล่าสุด เจ้าของบ้านบุกเอาคืน จ่อย้ายเข้ามาอยู่
- กฎหมายยาบ้า 5 เม็ด ‘เรวัช’ ชี้ เปิดช่องตำรวจทุจริตง่าย เพราะโทษต่างกัน
- เยาวชนโหด ลั่นไกใส่ 2 หนุ่ม โคม่า 1 สาหัส 1 แจ้งความแต่คดีไม่คืบหน้า
นอกจากนี้ ในโอกาสของการพิสูจน์ในข้อกล่าวหาดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีท่าทีหลบหนีการต่อสู้คดีในชั้นศาล เพื่อความเป็นธรรม สมาคมนักข่าวฯ เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาสมควรจะได้รับสิทธิ์ และขอความกรุณาในชั้นศาล ในการพิจารณารับการประกันตัวชั่วคราว เพื่อออกมาสู้คดีแก้ข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่ตามหลักของกระบวนการยุติธรรม และเพื่อพิสูจน์ว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากการทำหน้าที่สื่อมวลชนภายใต้กรอบจริยธรรม หรือเป็นพฤติการณ์อื่นๆ ต่อไป

หากสื่อมวลชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฎิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจภายใต้กรอบกฎหมาย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ มีช่องทางในการช่วยเหลือทางด้านกฎหมายโดยเฉพาะด้านความช่วยเหลือในการจัดหาทนายความต่อสู้คดีตามกรอบความร่วมมือข้อตกลงร่วมกัน (MOU) กับสภาทนายความ สามารถติดต่อผ่านช่องทางต่างๆของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ
สุดท้ายขอเรียกร้องให้บรรณาธิการและต้นสังกัด กำกับดูแลผู้ปฏิบัติงานข่าวทำงานอยู่ในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ กฏหมาย ยึดหลักการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน นำเสนอข้อมูลข่าวสารเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน นำเสนอข่าวสารด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รอบด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย