โซเชียลเดือด! แห่ติด ผ้าอนามัยไม่มีภาษี หลังมีประกาศ ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเครื่องสำอาง หวั่นถูกเก็บภาษีจาก 7% เป็น 30%
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษาว่าด้วยเรื่อง กำหนดวัตถุอื่นเป็นเครื่องสำอาง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ให้ผ้าอนามัยชนิดสอดที่ใช้สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อซับเลือดประจำเดือน เป็นเครื่องสำอาง
พร้อมให้หมายเหตุว่า “บทนิยามคำว่า ‘เครื่องสำอาง’ ในมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้บัญญัติให้วัตถุอื่น ที่กำหนดโดยกฎกระทรวง เป็นเครื่องสำอาง และโดยที่ มีความจำเป็นต้องควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน ของผ้าอนามัยชนิดสอดเพื่อให้สามารถคุ้มครองความปลอดภัยและอนามัยของผู้บริโภคได้ สมควรกำหนด ให้ผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้”
ทั้งนี้จากการค้นหาข้อมูล การที่ผ้าอนามัยหรือสินค้าอื่น ๆ ถูกจัดเข้ามาอยู่ในหมวด เครื่องสำอาง จึงทำให้ชาวเน็ตหวั่นภาษีมูลค่าจะเพิ่ม จาก 7% กลายเป็น 30%
งานนี้เรียกได้ว่า โลกทวิตเตอร์เดือดเป็นอย่างมาก แห่ติด #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี จนขึ้นเทรนดันดับ 1 ทั้ง ๆ ที่เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นสำหรับผู้ที่ ที่จะต้องใช้ในทุก ๆ เดือน โดยยังมองว่า การรณรงค์เรื่อง ผ้าอนามัยฟรี ไม่มีภาษีนั้น เป็นสิ่งที่รณรงค์มานาน และเพศหญิงควรได้ใช้ผ้าอนามัยฟรีเหมือนกับถุงยางอนามัยที่มีแจกฟรีทั่วไปตามอนามัย พร้อมยกตัวอย่าง ประเทศที่ยกเลิกภาษีผ้าอนามัยมาแล้วหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย เยอรมัน ออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์ทวิตเตอร์ @DrNarumonP ยืนยันว่า กรมสรรพสามิต ไม่มีการเก็บภาษีผ้าอนามัยในอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยถึง 40%เพราะถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยไม่ได้ถูกระบุในพิกัดการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิต ดังนั้นภาษีผ้าอนามัยจึงจะถูกจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามราคาของสินค้าเหมือนสินค้าชนิดอื่น
