เปิดใจลุงพล-ป้าแต๋น ยัน ความบริสุทธิ์ เตรียมทนายพร้อมประกันตัว

วันที่ 19 ธันวาคม 2566 1 วันก่อนการอ่านคำพิพากษา ในวันที่ (20 ธ.ค. 66) ในคดีที่ นายไชย์พล (สงวนนามสกุล) หรือ ลุงพล และ นางสาวสมพร (สงวนนามสกุล) หรือ ป้าแต๋น ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ โดย ลุงพล ป้าแต๋น เปิดใจ ก่อนวันสำคัญพรุ่งนี้ โดย นายไชย์พล หรือ ลุงพล เล่าว่า เมื่อคืนนี้เป็นครั้งแรกในรอบเดือน ที่กลับมานอนที่บ้านกกกอก ความรู้สึกก็เหมือนปกติทุกครั้ง เพราะได้กลับบ้านหลังแรก ยอมรับไม่อยากพูดคุยกับชาวบ้าน เนื่องจากกลัวจะเป็นการไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักในคดี เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นพยานที่เกี่ยวข้อง

นายไชย์พล กล่าวอีกว่า ตนก็วางแพลนจะไปไหว้พระพุทธชินราช ที่วัดบ้านกกกอก แต่คงไม่ไปไหว้น้องชมพู่ เพราะไม่อยากไปวุ่นวาย เป็นสิทธิ์ของทางครอบครัวเขา แต่ทุกครั้งที่ทำบุญ ก็จะอุทิศส่วนกุศลให้น้องอยู่เสมอ ขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจแบบล้านเปอร์เซ็นต์ว่าตนไม่ได้ทำ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแน่นอน ส่วนวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค. 66) ศาลจะอ่านคำพิพากษา ลุงกับป้าก็รอคอยมาตลอด ตั้งแต่วันที่ (31 ต.ค. 66) ที่ผ่านมา เชื่อพรุ่งนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่ก็เตรียมแผนการรองรับไว้แล้ว หากศาลตัดสินออกมาแล้วว่า “ลุงกับป้าต้องติดคุก” ก็เตรียมทนายประกันเพื่อตัวออกมา ก่อนจะขอต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมายต่อ

• ยัน ปรับขึ้นค่าไฟ เริ่ม ม.ค.67 แต่จะพยายามไม่ให้เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย
  
  
• เขมรเหิมเกริม ประกาศศักดา โชว์อาวุธ เตรียมไล่ทำร้ายคนไทย
  
  
• แม่น้องชมพู่เปิดใจ คดีลุงพล-ป้าแต๋น ก่อนตัดสินคดี ยัน มั่นในหลักฐาน

ทางด้าน นางสาวสมพร หรือ ป้าแต๋น เปิดเผยว่า มานอนที่บ้านกกกอก ก็อยากไปแก่งกอก เนื่องจากเป็นสถานที่ที่สวยงาม บรรยากาศดีสดชื่น ตนอยู่ที่วังปู่ปาริจิต ไม่ได้มีธรรมชาติแบบนี้เพราะที่นั่นเป็นชุมชนอากาศร้อน เมื่อเช้าได้เอาสวิงไปช้อนกุ้งฝอยมาถือเป็นวิถีชุมชนของตนในสมัยก่อน ตนรู้สึกว่าชอบอาศัยอยู่บ้านกกกอกมากกว่า วันพรุ่งนี้ก็อยากให้สังคมได้รู้อย่างชัดเจนว่า ผลออกมาเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าจะไม่เคลียร์กับทุกคน แต่เชื่อว่าคำตัดสินของศาลในวันพรุ่งนี้จะกระจ่างมากขึ้น

ครอบครัวของทุกคนอยู่ที่นี่ แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปคุยอะไรมากมายเพราะกลัวว่าจะมีปัญหากัน และเรามีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ส่วนอีกฝ่ายก็มีความสุขดีแล้ว จึงไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ เราพยายามพูดมาตลอดว่า “ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง” แต่ก็อยู่ที่ครอบครัวว่าจะทำความเข้าใจ และกล้าออกมาพูดกันไหม ถ้าไม่กล้าก็ให้เขาอยู่ตรงนั้นลุงกับป้าก็อยู่กับครอบครัวสบายดี