รวบแล้ว! สารวัตรคลั่ง กราดยิงสายไหม กินเวลานานกว่า 28 ชั่วโมง

ความคืบหน้า กราดยิงสายไหม รวบ สารวัตรคลั่ง หลังส่ง หน่วยอรินทราช 11 นายเข้าไกล่เกลี่ย กินระยะเวลานานกว่า 28 ชั่วโมง

14 มี.ค. 66 เมื่อเวลา 11.00 น. ตำรวจรับแจ้งเหตุ มีชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืน ยิงที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก อายุ 40-50 ปี บริเวณบ้านมั่นคง ซ.จิระมะกร เขตสายไหม กทม. ทราบชื่อเบื้องต้น นามว่า สารวัตรกานต์ ข้อมูลเบื้องต้น ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ได้ยินเสียงปืน จึงได้แจ้งเหตุไป โดยผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจสังกัดสันติบาล ยศพันตำรวจโท ตำแหน่งสารวัตรฝ่ายปกครองและกิจกรรม โดยเคยทำหน้าที่เป็นครูฝึก ในหน่วยสันติบาล เชื่อว่ามีความรู้ในการใช้ปืนอย่างแน่อน นอกจากนั้นยังมีอาการทางจิต ซึ่งทางต้นสังกัดนั้น ให้พักงานและในวันนี้ สารวัตรคลั่ง รายนั้น ต้องเข้าไปรักษาอาการ แต่แล้วก็มาเกิดเหตุ กราดยิงสายไหม ก่อน

13.20 น. หน่วยอรินทราชจำนวน 11 นาย เข้าพื้นที่

เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกำลัง หน่วยอรินทราชจำนวน 11 นาย เข้าพื้นที่เวลา 13.20 น. เพื่อเข้าปิดล้อมพื้นที่และเข้าไปเจรจาพร้อมกันประชาชนในหมู่บ้านออกจากพื้นที่เสี่ยง และในตอนแรกที่ผู้สื่อข่าวเข้ามาถึง ผู้ก่อเหตุ สารวัตรคลั่ง นั้นได้โผล่หน้าออกมาทางหน้าต่างชั้น 2 ของตัวบ้านตนเอง ซึ่งเป็นบ้านหลังท้ายซอยที่เกิดเหตุ

ต่อมาหลังจากที่ หน่วยอรินทราช ได้เดินเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ก็ได้มีเสียงปืนยิงอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 10 กว่านัด โดยเมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ กราดยิงสายไหม สารวัตรคลั่ง รายนี้ได้ออกมาซื้อบุหรี่

ด่วน! ตำรวจคลั่ง กราดยิงสายไหม ตอนนี้ยังจับตัวไม่ได้ จนท.ปิดล้อมพื้นที่

กราดยิงสายไหม เจ้าหน้าพยายามไกล่เกลี่ยสารวัตรคลั่ง หลังเจ้าตัวเครียดหนัก

กราดยิงสายไหม สารวัตรคลั่ง เครียดจัดตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ ลั่นพวกxึงออกไปให้หมด

หลังจาก หน่วยอรินทราช เข้าพื้นที่ไปประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ได้มีเสียงของ สารวัตรคลั่ง นั้นตะโกนออกมาจากในตัวบ้านว่า “ถอยออกไป” ต่อจากนั้นก็มีเสียงปืนดังอีกครั้ง โดยวิถีกระสุนนั้นมาใกล้จุดที่ผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ยืนอยู่โดยผู้สื่อข่าวนั้นได้ยินเสียงกระจกแตกใกล้มากๆ และต่อจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการคลุ้มคลั่งหนักและตะโกนออกมาตลอดเวลาพร้อมท้าทายว่า “ถ้าไม่กลัวตายก็เข้ามา” และหากฟังจากเสียงนั้นต้องบอกว่า สารวัตรคลั่ง เครียดมากๆ อีกทั้งยังสาดน้ำลงมาเป็นระยะๆ และหลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ผู้สื่อข่าวหลบไปข้างหลัง

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถึงที่เกิดเหตุ

ต่อมาเมื่อเวลา 16.02 น. ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง เดินทางถึงพื้นที่ก่อเหตุ และเข้าไปฟังรายงานสถานการณ์ในห้องที่ใช้เป็นพื้นที่ปฏิบัติการในก่อนหน้านี้ โดย พลตำรวจโทธิติ นั้นกล่าวก่อนเดินเข้าไปว่าจะพยายามจบเรื่องนี้ให้ดีที่สุด และในเวลา 16.27 น. เจ้าหน้าที่เริ่มอพยพผู้คนในหมู่บ้านออกจากครัวเรือน โดยชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้สูงอายุ

18.46 น. เจ้าหน้าที่เริ่มใช้แก็สน้ำตาและใช้โดรนบินในการสำรวจจุดเกิดเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้นยังไม่ยอมออกมามอบตัวในขณะเดียวกันระหว่างการจับกุมนั้นมีผู้บริสุทธ์ติดอยู่ด้านในห้องพักบริเวณใกล้เคียงไม่กล้าออกมาจึงต้องปิดหน้าต่างเพื่อป้องกันแก็สน้ำตา

โดยผู้ที่เข้ามาช่วยเจรจานั้นระดมกำลังเต็มที่ ทั้งการส่งข้อความและการโทร นอกจากนั้นยังมีเพื่อนสนิท ลูกชายและพี่ชายเข้ามาช่วยไกลเกลี่ยแต่ก็ไม่เป็นผล นอกจากนั้นจากการสอบถามเพิ่มเติม มีรายงานว่าระหว่างที่ทำการไกลเกลี่ย สารวัตรคลั่ง นั้นได้เปิดเพลงเสียงดังและเดินควงปืนอยู่ในบ้าน

20.53 น. เจ้าหน้าที่เพิ่มกำลังสมบท เพื่อยิงแก็สน้ำตาอีกครั้ง รวมเป็น 3 ครั้ง หลังผ่านไปกว่า 1 ชม. แต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมมอบตัว

21.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ตอบโต้ครั้งแรก หลังไกลเกลี่ยและยิงแก็สน้ำตา โดยตะโกนว่า “จะฆ่าให้ตายหมดเลย” หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นำแม่ของผู้ก่อเหตุเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือยังคงตะโกนโต้ตอบเป็นระยะ ลักษณะคล้ายจิตหลุด เพราะผู้ก่อเหตุนั้นกล่าวว่า “ทหาร 6,000 นาย กำลังมา”

และในยามคำ่คืนนั้นสถานการณ์ยังคงทรงเดิม มีการเจรจาตลอดทั้งคืนและโต้ตอบกัน จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเช้า แต่ก็ยังไม่สามารถคุมตัว สารวัตรกานต์ ได้

ล่าสุด 09.10 น. (15 มี.ค. 66) พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อว่า ขณะนี้ประเมินสถานการณ์แล้ว ความคืบหน้าเราสามารถกระชับพื้นที่เข้าไปได้มากขึ้นเราเห็นวิธีการอำพรางตัวของเขาแต่ในขณะยังมีความเสี่ยงอยู่เพราะเขามีอาวุธโดยแพทย์นั้นได้วินิจฉัยแล้วว่าเขาเป็นคนป่วยสำหรับความช้าต้องบอกว่าเขาเป็นคนป่วยเราต้องใช้วิธีที่ดีที่สุดเพราะเขาไม่สามารถออกมาจากห้องได้ไม่สามารถทำร้ายใครได้ ตอนนี้ไม่สามารถที่จะสื่อสารกันได้อย่างปกติเราต้องหาวิธีการควบคุมตัวให้ได้

11.45 น. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ (ผบ.ตร)ได้เข้ามาพูดคุยกับ สารวัตรกานต์ เหมือนจะคุยก็เหมือนจะรู้เรื่องแต่สุดท้ายก็ไม่รู้เรื่อง และไม่ยอมวางปืน เขายังไม่ใช่คนร้ายถือว่าเป็นคนป่วย และต้องใช้วิธี การเจรจาเป็นหลัก ทางทีมแพทย์ค่อนข้างหนักใจ เขาต้องได้รับการฉีดยา ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด เรื่องสารเสพติด เรายังไม่มีการายงานที่ชัดเจน

วินาทีจับกุม สารวัตรกานต์ 12.25 น.

เจ้าหน้าที่ หน่วยอรินทราช ปืนขึ้นหลังคาชั้น 2 ของบ้าน สารวัตรกานต์ เพื่อตัดสินใจบุกลุยจับ หลักจากนั้นมีเสียงปืน ดังสนั่นรัวไปทั่วพื้นที่ หลายนัด จนสื่อมวลชนแตกตื่น และรถพยาบาล ถอยเข้าพื้นที่เกิดเหตุ สุดท้ายยืนยันปฏิบัติการจบลงแล้วหลังผ่านไป 28 ชม. เพราะ ผบ.ตร ยืนยันผู้ได้รับบาดเจ็บคือ สารวัตรกานต์ โดยรถพยาบาลดังกล่าว ลำเลียง สารวัตรกานต์ ไปดูอาการที่ โรงพยาบาลภูมิพล ต่อไป

ข้อมูลจากเพื่อนสนิทและชาวบ้าน

ข้อมูลจากเพื่อนของผู้ก่อเหตุ ได้กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุนั้นมีความเครียดสะสมกับกรรมการหมู่บ้านและเพื่อนบ้าน เนื่องจากการทิ้งขยะของชาวบ้านนั้นส่งกลิ่นเหม็นโดยผู้ก่อเหตุได้แจ้งเรื่องนี้ไปกับทางกรรมการหมู่บ้านแล้วแต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ เพื่อนของผู้ก่อเหตุนั้นอ้างว่า นี้แหละคือปมในใจที่เครียดสะสมของผู้ก่อเหตุ อีกทั้งยังมีโรคประจำตัวทางจิตร่วมด้วย

ด้านชาวบ้านเล่าว่า สารวัตรคนดังกล่าวได้ใช้ชีวิตอยู่บริเวณนี้มานานนับ 1 ปี ซึ่งก็ใช้ชีวิตปกติ ตอนเช้าออกไปทำงานตอนเย็นกลับบ้าน แต่เพิ่งมีพฤติกรรมแปลกๆเมื่อ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยสารวัตรคลั่งได้ขับรถจักรยานยนต์และยิงปืนขึ้นฟ้าจึงเป็นสาเหตุให้ชาวบ้านแจ้งความ