วานนี้ (30 ม.ค. 66) องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่าการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ยังคงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) ซึ่งเป็นระดับการเฝ้าระวังสูงสุดขององค์การฯ ท่ามกลางตัวเลขผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
คณะกรรมการฉุกเฉินด้านกฎอนามัยระหว่างประเทศ (2005) ขององค์การฯ ประกาศว่าโรคโควิด-19 ยังคงถือเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังการประชุมประเมินการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รายไตรมาสเมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) ซึ่งได้รับการเห็นพ้องจากดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การฯ
คณะกรรมการฯ ระบุในแถลงการณ์ว่าโรคโควิด-19 ยังคงเป็นโรคติดเชื้อที่อันตรายและสามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อระบบสาธารณสุข พร้อมยอมรับว่าการระบาดของโรคโควิด-19 มีแนวโน้มกำลังเข้าใกล้จุดเปลี่ยนผ่าน
คณะกรรมการฯ เผยว่าแม้การติดเชื้อหรือการฉีดวัคซีนอาจนำไปสู่ระดับภูมิคุ้มกันของประชากรทั่วโลกที่สูงขึ้นและบรรเทาผลกระทบของอาการป่วยและการเสียชีวิต ทว่าเชื้อไวรัสนี้อาจยังคงเป็นเชื้อก่อโรคในมนุษย์และสัตว์อย่างถาวรในอนาคตอันใกล้ พร้อมเรียกร้องการดำเนินการด้านสาธารณสุขในระยะยาวที่มุ่งบรรเทาผลกระทบของโรคโควิด-19 ต่ออาการป่วยและการเสียชีวิต
ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯ แนะนำประเทศต่างๆ บรรลุความครอบคลุมการฉีดวัคซีนให้ประชากรกลุ่มสำคัญอย่างสมบูรณ์ ปรับปรุงการรายงานข้อมูลการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสฯ ต่อองค์การฯ ตลอดจนเตรียมพร้อมดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการแพทย์ในระยะยาว เช่น การฉีดวัคซีน การวินิจฉัย และการรักษาโรคโควิด-19
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY