โรคน้ำในหูไม่เท่ากันถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่หลายคนยังสับสนในเรื่องของอาการ ทั้งยังมีบางกลุ่มสงสัยกันอยู่ว่าโรคดังกล่าวมีความอันตรายหรือไม่ในระดับเท่าไร สามารถมาทำงานได้ไหม หรือต้องนอนพักอย่างเดียว ทางเราจึงนำข้อมูลมาฝากเพื่อไขข้อข้องใจร่วมกัน
อาการของน้ำในหูไม่เท่ากัน คือตอนตื่นนอนจะรู้สึกบ้านหมุนหรือสิ่งของหมุนรอบตัวเอง โดยความรู้สึกบ้านหมุนจะอยู่นานเกิน 20 นาที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการตรวจวินัจฉัยน้ำในหูไม่เท่ากันก็ยังต้องได้รับการตรวจละเอียดจากทางการแพทย์จึงจะได้ข้อมูลที่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับน้ำในหูหรือไม่อย่างไร เพราะผู้ป่วยหลายรายยังสับสนระหว่างอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน และอาการที่เกี่ยวข้องกับตะกอนในหูชั้นใน ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียการทรงตัวไปหรือรู้สึกโคลงเคลง
อย่างไรก็ตามถ้าหากเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับน้ำในหูจะต้องมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนเกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงความรู้สึกโคลงเคลงระหว่างทรงตัว รวมถึงอาการบ้านหมุนจะต้องอยู่นานเกิน 20 นาที
การรักษาโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน อันดับแรกคือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อน โดยเฉพาะลักษณะนิสัยในการทานอาหาร คือต้องหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสเค็ม เช่น ส้มตำ ต้มยำ น้ำพริก เป็นต้น ลำดับต่อมาถ้าหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วยังไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อรับยา โดยแพทย์จะให้ยาที่ช่วยเพิ่มขยายท่อน้ำในหูชั้นในให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและช่วยลดแรงดันได้ โดยยาที่ใช้ในการรักษาอาการน้ำในหูผิดปกติจะเป็นยากลุ่มเดียวกับยาลดความดันโลหิตสูง และการรักษาวิธีสุดท้ายหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วไม่ได้ผล รวมถึงใช้ยารักษาไปสักระยะแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์ก็จะทำการผ่าตัด โดยวิธีการผ่าตัดก็มีหลายวิธีด้วยกัน
สำหรับข้อควรปฏิบัติของผู้ป่วยโรคน้ำในหู คือเวลาเปลี่ยนท่าทาง ไม่ว่าจะลุกขึ้นหรือตะแคงไปทางด้านซ้ายหรือขวา จะต้องค่อยๆ ทำ เพราะการเปลี่ยนท่าทางในเวลาที่รวดเร็วจะทำให้เกิดอาการบ้านหมุนได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาหลังตื่นนอนที่พบว่าผู้ป่วยมีอาการค่อนข้างมาก
ข้อมูลจากรายการพบหมอรามา ช่วงลัดคิวหมอ รักษาโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน วันที่ 07 กรกฎาคม 58 อ.พญ.นวรัตน์ อภิรักษ์กิตติกุล ภ.โสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ที่มา เว็บไซต์ https://www.youtube.com/watch?list=PL-SDaIPHI78QkyAyFNtWjhnlhIa5AYxpB&v=ljE4Y509K-4