“ช้างศึก” ทำผลงานได้อย่างประทับใจแฟนบอลแม้สุดท้ายจะบุกพ่าย “ซอคเกอร์รูส์” ออสเตรเลีย 1-2 พลาดชัยชนะนัดแรกอย่างน่าเสียดาย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย แต่รูปเกมเป็นไปอย่างสูสี นอกจากนี้ นายทวารด่านสุดท้ายวัย 35 ปีอย่าง “สินทวีชัย หทัยรัตนกุล” ประกาศอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการ
ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ที่สนามเมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย “ช้างศึก” ทีมชาติไทย บุกไปเยือน “ซอคเกอร์รูส์” ออสเตรเลีย
เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชชาวเซอร์เบียของทีมชาติไทย วางแผนการเล่น 5-3-2 ลงสนาม มี สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบด้วย พรรษา เหมวิบูลย์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และ อดิศร พรหมรักษ์ ขนาบข้างด้วยวิงแบ็คสองข้างทั้ง ทริสตอง โด ทางขวาและฝั่งซ้าย พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แดนกลางขยับ ธีราทร บุญมาทัน มาทำเกมรุกและรับร่วมกับ ปกเกล้า อนันต์ โดยมี สรรวัชญ์ เดชมิตร ยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์ ยืนอยู่หลัง ชนาธิป สรงกระสิทธ์ กองหน้าตัวต่ำ และ ธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกกัปตันทีมยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า
ส่วนเจ้าถิ่นของ อันเก ปอสเตโคกลู กุนซือเจ้าบ้านจัดตัวผู้เล่นตัวหลักลงสนามอย่างครบครันทั้ง แมทธิว ไรอัน, อารอน มอย, มาร์ค มิลลิแกน, ทอม โรยิช และทิม เคฮิลล์ กองหน้าตัวเก๋า ลงสนาม
เริ่มเกมในครึ่งแรกเจ้าถิ่น ออสเตรเลีย เปิดเกมรุกเข้าหาทีมชาติไทยทันทีแต่ทำอะไรกันไม่ได้ หมดครึ่งแรก ออสเตรเลีย เสมอกับ ไทย อยู่ 0-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 69 อารอน มอย เปิดบอลจากกราบซ้ายไปหน้าประตูให้ โทมี ยูริช สอดเข้ามาโหม่งบอลตุงตาข่ายให้เจ้าบ้านออสเตรเลีย นำ ช้างศึก 1-0
หลังจากนั้น ทีมชาติไทย หวุดหวิดเกือบเสียประตูบ่อยครั้งแต่ สินทวีชัย ป้องกันเอาไว้ได้อย่างดี จนถึงนาทีที่ 82 ทีมชาติไทย ทำเกมขึ้นมาทางฝั่งซ้าย พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เปิดบอลเรียดเข้าไปในเขตโทษให้ ปกเกล้า อนันต์ ตวัดยิงด้วยซ้ายตุงตาข่ายตีเสมอให้ ไทย ไล่มาเป็น 1-1
ทว่าเจ้าถิ่น ออสเตรเลีย ได้ประตูนำอีกครั้งเป็น 2-1 ในนาทีที่ 86 อารอน มอย เปิดลูกเตะมุมไปหน้าประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ทุบบอลออกมาไม่ดีเข้าทาง แมทธิว เล็คกี้ ซัดด้วยซ้าย ส่งบอลเข้าประตูไป และเป็นประตูชัยให้ ออสเตรเลีย ออสเตรเลีย เอาชนะ ไทย ไปได้หวุดหวิด 2-1
หลังจบเกม “ตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล อายุ 35 ปี ผู้รักษาประตูมือ 1 ในเกมดังกล่าว ประกาศอำลาทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ โดยกล่าวว่า “ขอบคุณ ทุกความทุ่มเท สู้สุดใจจนวินาทีสุดท้าย เพื่อทีมชาติไทย”
ขอขอบคุณภาพข่าวจากเฟซบุ๊ก Sinthaweechai Hathairattanakool, ช้างศึก, ฟุตบอลทีมชาติไทย และ Youtube The AFC Hub
