ศาสตราจารย์ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญของ กกต. โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas” ในหัวข้อ “เพ่งโลก พิศไทย ประเทศไทยแย่เต็มที”
คนไทยจำนวนไม่น้อย เรียนหนังสือสูง ชอบวิพากษ์ วิจารณ์ และ เคร่งเครียด โดยเฉพาะนักสื่อสังคม นักสื่อมวลชนและนักวิชาการ ซึ่งรวมทั้งผมเองด้วยในบางครั้ง เราอดรู้สึกกันไม่ได้ว่าประเทศเรายังไปไม่ถึงไหนสักทีในทางเศรษฐกิจ ห่วงกันว่าประชาชนเรายังทุกข์ยากลำบาก บ้านเมืองเต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ แน่นอนครับ ถ้าความรู้สึกเช่นนั้นทำให้เราต้องบากบั่นต่อไปอีกเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้น ก็พอจะรับได้ครับ แต่ผมอดสงสัยขึ้นเรื่อยๆ ว่า แล้วมัน “จริงแค่ไหน” ที่เราเห็นกันอย่างนั้น
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 นี้ สำนักข่าวบลูมส์เบิร์กรายงานว่าในจำนวน 65 ประเทศทั่วโลกที่ศึกษามา ซึ่งมีทั้งจนและรวย ด้อยพัฒนาและพัฒนา นั้น พบว่าประเทศที่มี “ดัชนีความทุกข์ยาก” น้อยที่สุดในโลกคือใคร ทราบไหมครับ “ไทยเราเอง ” งง ไหมครับ คาดถึงไหมครับ สุดขั้ว ตรงข้ามเลย ประเทศที่คนทุกข์ยากมากที่สุดในโลกคือ” เวเนซุเอลา” ประเทศนี้ดูจะมีนางงามจักรวาลมากที่สุดในโลกครับ คนสวยมีเยอะ ยิ่งกว่าบ้านเราเสียอีก
ดัชนีความทุกข์ยากนี้เขาประเมินจากแนวโน้มเงินเฟ้อ ค่าเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ อัตราการว่างงาน และความเข้มแข็งของตลาดแรงงาน เขาพบว่า ไทย ติดอยู่ในอันดับ 65 อยู่ในอันดับท้ายสุด ไทยมีความทุกข์ยากน้อยที่สุดในโลก เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้ว งง ไหมครับ ถามอีกที
แอฟริกาใต้ ดินแดนแสนงาม แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติระดับโลก ปรากฏว่าประเทศนี้ ทุกข์เป็นอันดับที่ 2 ของโลก ถัดลงไปอาร์เจนตินา ซึ่งกล่าวสำหรับคนไทย เป็นมหาอำนาจ “ลูกหนัง”โลก ได้ครองอันดับ 3 เรื่องความทุกข์ยากลำบากนี้
ทั้งสามประเทศที่ว่ากันว่า “ทุกข์ยาก” เป็นสามอันดับแรกของโลกนั้น คนไทยเรารู้จักค่อนข้างดี เวเนซูเอล่านั้นมีเค้าจะเป็นประเทศเศรษฐีน้ำมันแบบตะวันออกกลางเสียด้วย แต่จริงๆ อยู่ในละตินอเมริกา ส่วน แอฟริกาใต้ อย่าลืมว่าเป็นประเทศ “เนลสัน แมนเดล่า” เศรษฐกิจเจริญที่สุดในทวีปแอฟริกา จะขึ้นเป็นประเทศพัฒนาในเร็วๆนี้ ส่วนอาร์เจนตินานั้นจะว่าเจริญที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ก็ได้ ทันสมัยไม่แพ้บราซิล ครับ
ปัญหาทางเศรษฐกิจ และการเมืองที่ยืดเยื้อมาหลายปี คล้ายกับที่เกิดในเมืองไทย ทำให้เวเนซุเอลา กลายเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากมากที่สุดในโลก ประกอบกับราคาน้ำมัน สินค้าส่งออกสำคัญเพียงอย่างเดียวของเขาก็ดิ่งลงอย่างหนัก ผล: คนว่างงาน แต่เงินเฟ้อพุ่ง รายได้ตกต่ำ คนไม่ซื้อของร้านค้าต่างๆ ไม่มีสินค้าวางขาย โรงพยาบาลไม่อาจให้บริการการแพทย์แม้ขั้นพื้นฐาน อาชญากรรมเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ ทุกวงการสิ้นหวัง ประชาชนทั้งประเทศรู้สึกโกรธแค้น และมืดมน
ประเทศอื่นๆ ที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกในความทุกข์ยากลำบากตามดัชนีที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ยังรวมไปถึง กรีซ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลก ซึ่งติดทุกข์อันดับ 4 และ ตุรกี ติดอันดับ 5 ส่วนอันดับ 6 นั้นตกเป็น ของสเปน ยูเครนติดอันดับ 7 และ เซอร์เบีย บราซิล และอุรุกวัย ติดอันดับที่ 8, 9 และ 10 ตามลำดับ ตกลงแล้วประเทศที่ทุกข์ยากลำบากเหลือแสนนั้น มีรวมถึงในยุโรปด้วย มีประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วย และทั้ง 10 ประเทศนั้นไม่ใช่ประเทศ “โนเนม” เลย
อนึ่ง ในปีนี้ ปรากฏว่าขนาดเศรษฐกิจของประเทศไทยใหญ่เป็นอันดับ 27 ของโลก นับเป็นจำนวนเงินดอลลาร์ของอเมริกานะครับ หากนับเป็นกำลังซื้อที่เป็นจริงใหญ่เป็นอันดับที่ยี่สิบต้นๆ ดูเหมือนที่ 21-23 ของโลก หากดูในทวีปเอเชียด้วยกัน เศรษฐกิจเราใหญ่เป็นอันดับสิบครับ แน่นอนเราไม่ใช่ที่หนึ่งสองของโลก นั่นเป็นตำแหน่งของอเมริกาและจีน แต่อันดับที่ 27 ของโลกนี่ไม่เลวเลยครับ สูงกว่าหลายประเทศในยุโรปเสียอีก แน่นอนครับ หากวัดเป็นรายได้ต่อหัว เรายังจัดเป็นประเทศรายไดัปานกลาง และที่ต้องห่วงก็มีจริง คือ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เราแย่เป็นอันดับสามของโลก วัดจากการที่คนรวยสุดหนึ่งเปอร์เซนต์ของประเทศถือครองเกือบหกสิบเปอร์เซนต์ของความมั่งคั่งของคนทั้งชาติ นี่ย่อมปฏิเสธไม่ได้ และเห็นว่า ยุทธศาสตร์ยี่สิบปีควรที่จะต้องลดความเหลื่อมล้ำของสังคมลงให้จงมากและโดยเร็ว แต่เฉพาะหน้านี้ ต้องย้ำ คนไทยเราไม่ว่างงาน คนไทยไม่ลำบากจากเงินเฟ้อ จากค่าครองชีพ โดยเฉพาะจากอาหารแพง จากเงินบาทผันผวนหรือตกต่ำ ประเทศเราแม้จะ “เหลื่อมล้ำ” มาก แต่ก็จัดว่า “ทุกข์ยากลำบาก” น้อย ยิ่งมาประจวบกับความ “หลั่นล้า” และรู้จัก “พอเพียง” ของคนไทยเอง ก็ฟันธงได้เลยว่าเราเป็นสังคมที่ “สุข” มากทีเดียว ซึ่งตรงกับที่ทั่วโลกเห็นมาตลอดว่าโดยทั่วไปคนไทยนั้น “น่ารัก ใจดี ยิ้มแย้ม มีอัธยาศัย เอื้อเฟื้อ” และยังช่างมีความเมตตากรุณาต่อผู้เยี่ยมเยือนจากต่างประเทศเป็นพิเศษด้วย
สรุปว่า ความรู้สึกไปอย่าง ความจริงไปอีกอย่าง เมืองไทยนั้นความจริงไม่เลว คนไทยนั้น แน่นอน จริงๆ ไม่เลว เลยครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก “เอนก เหล่าธรรมทัศน์ Anek Laothamatas“
