“คิดว่าโอกาสจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวกี่เปอร์เซ็นต์?”
ทันทีที่สิ้นสุดคำถามนี้ ผู้ที่ถูกถามถึงกับเงียบไปเกือบ 10 วินาที เป็นความเงียบที่เชื่อว่าไม่ใช่แค่ผู้ถูกถามเท่านั้น ที่รู้สึกอึดอัด แม้แต่อดีตคนรักที่นั่งข้างๆ ก็คงจะรู้สึกหลายอย่างใจอยู่ในใจ ในชั่วขณะนั้น
และในระหว่างที่ยังไม่มีคำตอบใดๆออกจากปากมิ้ง
ก็มีคำถามเพิ่มเติมอีก
“ที่ฟังมาเหมือนกัปตันจะรับแค่ลูก ไม่รับแม่”
สุดท้ายคำตอบที่ออกจากปากหญิงสาววัย 23 ปี ก็เป็นคำตอบที่หลายๆคนคาดเดาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องตอบแบบนี้
หรือแม้แต่คำถามอื่นๆ ที่เสียดแทงใจผู้ถูกถาม เช่น
“ส่วนตัวจะรู้สึกยังไงบ้าง ถ้าเค้าจะรับแต่เด็กในท้องอย่างเดียว”
ถ้าโจทย์ในการทำงานด้านข่าวคือ ถามในสิ่งที่คนทั่วไปอยากรู้ คำถามเหล่านี้ คงจะเป็นคำถามแทนใจคนดูส่วนหนึ่งได้เป็นอย่างดี
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้ ข่าวที่สร้าง engagement ได้ดี มักจะเป็นข่าวประเภทนี้ เพราะเป็นข่าวที่ถูกจริตคนส่วนใหญ่
แต่ถ้ามองในมุมของบุคคลที่อยู่ในข่าว คำถามเหล่านี้ ดูจะไม่ประนีประนอมกับความรู้สึกของคนที่ต้องตอบสักเท่าไหร่ แล้วยิ่งกรณีนี้ บุคคลในข่าวเป็นผู้หญิงวัย 23 ปี ที่เพิ่งจะเรียนจบ และเหตุผลที่จะต้องมานั่งตอบคำถามที่เสียดแทงใจให้คนทั้งประเทศได้รับรู้ ก็เพียงเพราะว่าอยู่ในฐานะ อดีตคนรักของดาราที่คนให้ความสนใจ
และที่เห็นได้ชัด จากกระแสที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ที่คนทั่วไป ก็ออกมาตั้งคำถามว่า สิ่งที่นักข่าวถามในวันนั้น มันแรงเกินไปไหม จรรยาบรรณของสื่ออยู่ตรงไหน อย่างเช่นเพจ Drama Addict และ อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก หรือแม้แต่ดีเจเอกกี้ ที่ทำงานในวงการสื่อเช่นกัน ก็หยิบประเด็นนี้มาถกเถียงกัน
หลายต่อหลายครั้งที่สื่อเองถูกตั้งคำถามกลับ ในเรื่องของความพอดี ความมีจรรยาบรรณในการนำเสนอข่าว และนี่ก็เป็นอีกครั้ง ที่คำถามที่สื่อถามออกไป กลายเป็นหอกที่ทิ่มแทงกลับมายังผู้ที่ทำหน้าที่สื่อ
ในการแข่งขันที่สูงในธุรกิจสื่อทุกวันนี้ แรงกดดันต่างๆที่ถาโถมมาจาก ทั้งภายนอก และภายในองค์กร ก็ทำให้ผู้ที่ทำหน้าที่สื่อในบางครั้งต้องทำบางสิ่งบางอย่างออกไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่กลับมา จนทำให้หลงลืมความเหมาะสม นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และก็คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่หวังว่าในทุกๆครั้งที่สื่อมวลชนถูกตั้งคำถามกลับจากประชาชนแบบนี้ เราจะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดไปพร้อมๆกัน
และหากจะอ้างอิงข้อมูลจากหลักสูตรพื้นฐานจรรยาบรรณที่ดีของสื่อสารมวลชน หลักการในการตั้งคำถามแต่ละคำถามนั้น ผู้ถามควรจะตอบให้ได้ว่า คำถามเหล่านั้น ถามไปเพื่ออะไร และจะเป็นประโยชน์กับใคร และคำถามเหล่านั้น ไปละเมิดสิทธิของใครหรือไม่ และคำถามที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการแถลงข่าวครั้งนี้ มีข้อไหนที่เข้าข่ายหลักการในข้างต้นหรือไม่ เชื่อว่าผู้อ่านทุกคนคงทราบคำตอบดี
แหล่งที่มา